เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 ณ บรูไนดารุสซาลาม ผู้นำอาเซียนและจีนได้เห็นชอบที่จะให้มีการยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการเปิดเสรีทางการค้าสินค้า/บริการ และการลงทุน ตลอดจนการปรับปรุงข้อบทความตกลงฯ ให้มีความทันสมัยและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยการประชุมครั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-จีน ได้ให้การรับรองกรอบการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน โดยอาเซียนและจีนจะเริ่มการเจรจารอบแรกช่วงปลายเดือนกันยายน ศกนี้ ณ ประเทศเวียดนาม
สำหรับแนวคิดการยกระดับฯ นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างอาเซียนกับจีนให้มีความสอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายของเศรษฐกิจในภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก และเพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือและการเปิดเสรีทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึกทั้งในด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และด้านอื่นๆ เพื่อปรับปรุงสภาพการเข้าสู่ตลาด ตลอดจนการใช้ประโยชน์ ภายใต้ความตกลงระหว่างอาเซียนกับจีน ส่งเสริมให้อาเซียนและจีนบรรลุเป้าหมายการค้าอาเซียน-จีน ที่มูลค่า 500,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2558 และเป้าหมายการค้าที่มูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 ตามที่ผู้นำอาเซียนและจีนได้ตั้งเป้าไว้
ทั้งนี้ สิ่งที่ไทยจะได้รับประโยชน์จากการยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และด้านการลงทุน ตลอดจนผลักดันการแก้ไขปัญหามาตรการที่มิใช่ภาษีต่างๆ นอกจากนี้ การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับจีนให้บรรลุเป้าหมาย 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2558 ตามที่ผู้นำไทยและจีนได้ตั้งเป้าหมายไว้ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทำเลที่ตั้งของไทยจะเป็นจุดเชื่อมทางด้านการค้าและโลจิสติกส์ที่ดีสำหรับจีนที่จะทำการค้ามายังประเทศอาเซียน และสำหรับประเทศอาเซียนที่จะส่งสินค้าผ่านไปยังจีน ไทยจึงควรใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ดังกล่าวควบคู่ไปกับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากการยกระดับฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานและแนวทางความร่วมมือต่างๆ ที่จะช่วยขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียนและจีน ได้แก่ การจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ASEAN-China Expo ครั้งที่ 11 ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2014 ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ความคืบหน้าโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างมณฑลชายฝั่งทะเลตอนใต้ของจีนกับแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน ข้อริเริ่มของจีนเรื่องเส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21 และการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเชื่อมโยงระหว่างอาเซียนกับจีน และเป็นอีกช่องทางหนึ่งของแหล่งเงินทุนที่จะนำมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค
มูลค่าการค้าสองฝ่ายระหว่างอาเซียน-จีน ในปี 2556 การค้ารวมมีมูลค่า 442,707.6 ล้านเหรียญสหรัฐ อาเซียนส่งออกไปจีนมูลค่า 243,837.6 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีนมูลค่า 198,870 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 การค้ารวมมีมูลค่า 220,625.1 ล้านเหรียญสหรัฐ อาเซียนส่งออกไปจีนมูลค่า 122,860.35 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีนมูลค่า 97,764.75 ล้านเหรียญสหรัฐ
การค้ารวมระหว่างไทยกับจีนในปี 2556 คิดเป็น 64,964.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยส่งออกไปจีน 27,238.22 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากจีน 37,726.64 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ มูลค่าการค้าไทย-จีน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของมูลค่าการค้าอาเซียน-จีน และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2557 การค้ารวมไทย-จีน มีมูลค่า 25,256.38 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยนำเข้าจากจีนมูลค่า 10,403.57 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งออกไปจีน มูลค่า 14,852.81 ล้านเหรียญสหรัฐ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630