ในการประชุมครั้งนี้ รัสเซียแสดงความสนใจที่จะซื้อสินค้าเกษตรและอาหารจากไทย และไทยได้เสนอที่จะส่งออกสินค้าอาหารเช่น ข้าว เนื้อไก่ ปลา และสินค้าประมงอื่นๆ รวมทั้งสับปะรดให้รัสเซีย โดยรัสเซียได้เสนอให้จัดตั้งคณะทำงาน (Working Group) ที่ประกอบด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัสเซียและผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมอสโก เพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการค้าและการลงทุนระหว่างกัน เช่น การแก้ปัญหาเกี่ยวกับมาตรการสุขอนามัยพืชและสัตว์และกฎระเบียบในการนำเข้าของรัสเซีย เพื่อให้ไทยส่งออกสินค้าอาหารมารัสเซียได้มากขึ้น รวมทั้งสองฝ่ายจะเร่งจัดทำความตกลงความร่วมมือทางวิชาการว่าด้วยการควบคุมความปลอดภัยในการนำเข้าและส่งออกสินค้าสัตว์น้ำ ระหว่างกรมประมงของไทยกับหน่วยงานด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชของรัสเซีย (FSVPS) ของรัสเซีย เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปยังรัสเซียให้มากขึ้น
ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเป็นการสร้างโอกาสในการขยายการค้าระหว่างกัน โดยในช่วงวันที่ 1-5 ธันวาคมนี้ กลุ่ม OPORA group ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนที่ส่งเสริมธุรกิจ SMEs ที่รัฐบาลรัสเซียให้การสนับสนุน จะนำผู้แทนจาก 13 บริษัท เดินทางไปประเทศไทยเพื่อพบกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประกอบด้วยผู้ประกอบการในสาขาอาหาร พาหนะไฟฟ้า พลังงาน ลิฟท์ ยาและเวชภัณฑ์ การศึกษา ก่อสร้าง และสปา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และจับคู่ธุรกิจ ในโอกาสนี้จะได้เข้าเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครของไทยด้วย
ในด้านการลงทุน ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น โดยสาขาที่ไทยผลักดัน ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา (R&D) การเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เครื่องบิน ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และสาขาที่ฝ่ายรัสเซียผลักดัน ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ อุตสาหกรรมหนัก การขนส่งทางราง ยางพารา อุตสาหกรรมซอฟแวร์ ก่อสร้าง และธนาคาร นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีกลไกการประสานงานอย่างต่อเนื่องระหว่างกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของรัสเซีย กับสถานเอกอัครราชทูตไทย และสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงมอสโก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการเข้ามาลงทุนในไทยและรัสเซีย นอกจากนี้ฝ่ายรัสเซียเสนอให้มีกลไกหารือในระดับรัฐมนตรีเพื่อหารือด้านการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะในประเด็นด้านกฎหมาย และการให้สิทธิพิเศษด้านการลงทุน
ในด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีความร่วมมือระหว่างกัน เนื่องจากไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวรัสเซีย โดยมีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามาในไทยมากเป็นอันดับ 2 โดยในปี 2556 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 1.7 ล้านคน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.13 ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งเร่งสรุปแผนการดำเนินงาน (Action Program) เพื่อให้เกิดกิจกรรมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น
นอกจากนี้ ไทยและรัสเซียได้หารือในประเด็นความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการค้าและการลงทุน อาทิ ความร่วมมือด้านอัญมณีและเครื่องประดับ การเงินการธนาคาร ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม ในโอกาสนี้ ไทยจะเชิญให้รัสเซียเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยางภายใต้โครงการเมืองยาง (Rubber City) ณ นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา โดยนักลงทุนจะได้รับสิทธิพิเศษและการส่งเสริมจาก BOI
สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างไทย-รัสเซียนั้น รัสเซียนับเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (CIS) และอันดับที่ 24 ของไทยในตลาดโลก โดยระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2552-2556) การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าเฉลี่ย 4,329 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี โดยในปี 2557 (มกราคม-กันยายน) การค้าระหว่างไทย-รัสเซีย มีมูลค่า 3,827 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 10.27
ด้านการส่งออกของไทยไปรัสเซีย รัสเซียเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 1 ของไทยในกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช(CIS) และเป็นอันดับที่ 30 ของไทยในตลาดโลก ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2552-2556) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 925 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2557 (มกราคม-กันยายน) ไทยส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียเป็นมูลค่า 927 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 4.33 สินค้าส่งออกสำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ (1) รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ (2) อัญมณีและเครื่องประดับ (3) เม็ดพลาสติก (4) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (5)ผลิตภัณฑ์ยาง (6) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ (7) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (8) เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ (9) เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ และ (10) ข้าว
ด้านการนำเข้าของไทยจากรัสเซีย รัสเซียเป็นแหล่งนำเข้าอันดับที่ 1 ในภูมิภาค CIS และอันดับที่ 17 ของไทย ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2552-2556) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 3,404 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2557 (มกราคม-กันยายน) ไทยนำเข้าสินค้าจากรัสเซียเป็นมูลค่า 2,900 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 12.32 สินค้านำเข้าสำคัญ 10 อันดับแรก ได้แก่ (1) น้ำมันดิบ (2) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (3) ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ (4) สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ (5) น้ำมันสำเร็จรูป (6) ก๊าซธรรมชาติ (7) พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช (8) สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งแปรรูป (9) เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ และ (10) แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630