คณะกรรมการฯ RCEP เร่งหารือประเด็นติดค้างสำคัญ ต้นเดือนเมษายนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 3, 2015 15:21 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

คณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP เตรียมจัดประชุมเพิ่มเติม ระหว่างวันที่ 1 – 2 เมษายน 2558 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อหาข้อสรุปประเด็นติดค้างสำคัญ ด้านรูปแบบการเปิดตลาดการค้าสินค้า และการค้าบริการ ให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP (RCEP – TNC) ครั้งที่ 8 ที่จะมีขึ้นช่วงเดือนมิถุนายน 2558 ณ ประเทศญี่ปุ่น

นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากผลการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP (RCEP-TNC) ครั้งที่ 7 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 4 – 13 กุมภาพันธ์ 2558 ทุกประเทศเห็นถึงความเร่งด่วนและมีความพยายามอย่างมาก ที่ต้องการให้การเจรจามีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะต้องการหาข้อสรุปในประเด็นสำคัญ (Core Issues) ได้แก่ เรื่องรูปแบบการลดภาษีในสินค้ากลุ่มแรกแนวทางการเปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุน คณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP จึงกำหนดให้มีการประชุมเพิ่มเติม ระหว่างวันที่ 1 – 2 เมษายน 2558 ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อหาข้อสรุปให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า RCEP (RCEP – TNC) ครั้งที่ 8 ที่จะมีขึ้นช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2558 ณ ประเทศญี่ปุ่น

นายธวัชชัย กล่าวถึงประเด็นที่จะหารือในการประชุมครั้งนี้ว่า ที่ประชุมจะเร่งหารือใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่รูปแบบของการเปิดเสรีสินค้าสำหรับยื่นข้อเสนอยกเลิกภาษีนำเข้าในกลุ่มแรก (Initial Offer) จะเป็นอย่างไร จะกำหนดให้จำนวนรายการสินค้าในกลุ่มแรกเปิดตลาดร้อยละเท่าไหร่ และรายการสินค้าที่เหลือจะลดหรือยกเลิกภาษีกันอย่างไร เพื่อเป็นฐานเริ่มต้นเพื่อต่อยอด การเปิดตลาดในกรอบ RCEP ได้ดีกว่าความตกลง FTA ที่อาเซียนกับคู่เจรจามีอยู่ในปัจจุบัน 5 ฉบับ (ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – เกาหลีใต้ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ญี่ปุ่น และความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – อินเดีย)

ในด้านการค้าบริการ พยายามหาข้อสรุปให้ได้ว่ารูปแบบการเปิดตลาดการค้าบริการในรูปแบบใดที่จะเหมาะสมกับประเทศสมาชิก RCEP โดยมีการนำเสนอรูปแบบการเปิดตลาดหลายรูปแบบ อาทิ รูปแบบการเปิดตลาดโดยผูกพันสาขาบริการที่แต่ละประเทศพร้อมเปิด (Positive List Approach) หรือ ระบุเฉพาะสาขาและมาตรการที่ไม่ต้องการเปิดตลาดลงไปในตารางข้อผูกพัน (Negative List Approach) หรือ รูปแบบการเปิดตลาดในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ประเทศสมาชิก RCEP จะหารือความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบการเปิดตลาดการค้าบริการในรูปแบบอื่นซึ่งอยู่บนพื้นฐานของความง่ายต่อการใช้ ความโปร่งใส และมูลค่าเพิ่มในความตกลง เพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการเจรจาต่อไป

หากการประชุมครั้งนี้ สามารถหาข้อสรุปการเจรจาดังกล่าวข้างต้น จะทำให้การเจรจาดำเนินการต่อไปได้อย่างมีทิศทาง และเป็นไปตามเป้าหมายที่ผู้นำกำหนดให้สรุปผลการเจรจา RCEP ภายในสิ้นปี 2558 โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในภูมิภาค RCEP ซึ่งจะกลายเป็นเป็นเขตการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกครอบคลุมประชากรกว่า 3 พันล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึง 10.7ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 29 ของการค้าโลก และครอบคลุมตลาดส่งออกของไทยกว่าร้อยละ 57 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด

ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Regional Comprehensive Economic Partnership : RCEP)ประกอบด้วยสมาชิก 16 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ ความตกลง RCEP ถือเป็นความริเริ่มของอาเซียนเพื่อแสดงเจตนารมณ์ของอาเซียนที่จะจัดทำความตกลง RCEP โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการรวมกลุ่มของภูมิภาค RCEP มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นความตกลงที่ทันสมัย คลอบคลุม มีคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิก RCEP โดยจะครอบคลุมด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน นโยบายแข่งขันทางการค้า ทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ กฎหมาย และประเด็นอื่นๆ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ