นางอภิรดี กล่าวว่า กรอบการเจรจาฯ นี้จะเป็นแนวทางในการกำหนดขอบเขตการเจรจาจัดทำ FTA ของไทยกับทั้งสองประเทศ ซึ่งครอบคลุมในเรื่องการค้าลด/ยกเลิกภาษีศุลกากร การลดอุปสรรคทางการค้าและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าสินค้า ซึ่งคณะทำงานฯ ได้พิจารณาร่างกรอบฯ และได้ปรับเพิ่มเล็กน้อย ดังเช่นในเรื่องถิ่นกำเนิดสินค้า เปิดให้สามารถเปลี่ยนแปลงกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าได้ อันเนื่องมาจากการปรับแก้ไขพิกัดศุลกากรตามมาตรฐานระหว่างประเทศได้ ในเรื่องมาตรการปกป้อง ให้พิจารณาเริ่มจากการหารือสองฝ่ายก่อนนำมาตรการฯมาใช้เป็นต้น
การเปิดเจรจา FTA กับทั้งสองประเทศดังกล่าว ถือว่าเป็นประเทศที่สามารถเป็นประตูการค้า เพื่อกระจายสินค้าของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต โดยตุรกีเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีกำลังซื้อสูง มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 19 ของโลก มีประชากรราว 80 ล้านคน และมีนักท่องเที่ยวปีละกว่า 30 ล้านคน ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) มูลค่าการค้าที่ไทยส่งออกไปตุรกี เฉลี่ยปีละ 1,109 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้าจากตุรกีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 257 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา สินค้าสำคัญที่ไทยนำเข้าจากตุรกี ได้แก่ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบพืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เคมีภัณฑ์ ส่วน 4 เดือนแรกของปีนี้ไทยส่งออกมูลค่า 430.6 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 345 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูงเช่น เคมีภัณฑ์ 55% เส้นใยสังเคราะห์ 51% รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 42% ตุรกีจะเป็น Gate Way สินค้าไทยไปต่อได้ทั้งยุโรปเช่น กรีซ บัลแกเรียตะวันออกกลางเช่น ซีเรีย เลบานอน อิรัก อิหร่าน และเอเชียกลางที่อยู่รอบๆทะเลดำ เช่น จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน
ปากีสถานเป็นตลาดขนาดใหญ่ ประชากร 194 ล้านคน มากเป็นอันดับ 6 ของโลก และประชากรประมาณ 30 ล้านคนมีกำลังการซื้อสูง มีทรัพยากรที่สามารถเป็นวัตถุดิบต่อการผลิตของไทย และจะเป็น Gate Way สินค้าไทยสู่ อัฟกานิสถาน อิหร่าน เอเชียกลาง เช่น ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน อุซเบกิซสถาน เติร์กเมนีซสถาน โดยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) มูลค่าการค้าที่ไทยส่งออกไปปากีสถาน เฉลี่ยปีละ 886 ล้านเหรียญสหรัฐนำเข้ามูลค่าเฉลี่ยปีละ 108 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน 4 เดือนแรกของปีนี้ไทยส่งออกมูลค่า 395 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 339 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญไปปากีสถาน ได้แก่ รถยนต์/อุปกรณ์/และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก เส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ยาง สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ สัตว์น้ำแช่เย็น/แช่แข็ง/และแปรรูป น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ด้ายและเส้นใย สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สินแร่โลหะอื่นๆ หาก FTAบรรลุผลในทางปฏิบัติจะช่วยผลักดันปริมาณการค้าทั้ง 2 ฝ่าย ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,080 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2561 ได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ คณะทำงานยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าของประเทศชุดนี้ ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำยุทธศาสตร์และแนวทางการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ข้อเสนอแนะ ท่าทีการเจรจา รวมทั้งมาตรการรองรับและบรรเทาผลกระทบ เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้าตามกรอบความตกลงต่างๆ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) เป็นประธานฯ และมีอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นเลขานุการคณะทำงาน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630