นาง
อภิรดี ตันตราภรณ์
รัฐมนตรีช่วยว่าการ
กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะมนตรีเขต
การค้าเสรีอาเซียน (A
FTA Council) ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ
มาเลเซีย ในวันที่ 22 สิงหาคม ศกนี้ที่ประชุมจะพิจารณาและรับทราบประเด็นสำคัญหลายเรื่องที่จะอำนวยความสะดวกและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจของภาคเอกชนไทย อาทิ (1) การเห็นชอบตารางการลดภาษีของ
กัมพูชาที่จะนำมาใช้ในปี 2012-2025 โดย
กัมพูชาได้เร่งรัดการเปิดตลาดสินค้าปิโตรเลียมให้เร็วขึ้นกว่าเดิมจากปี 2026 เป็น 2025 และลดภาษีสินค้า 4 รายการให้เหลือร้อยละ 0 ภายในปี 58 นี้ ได้แก่ ห่านแช่แข็ง ปลาน้ำจืดมีชีวิต ลำไย และสารประกอบเฮตเทอโรไซคลิก (2)การผลักดันให้อินโดนีเซียและ
มาเลเซียถอนรายการสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเวียดนามถอนรายการสินค้ายาสูบออกจากรายการสินค้าที่ไม่นำมาลดภาษี (GE list) ภายในปีนี้ (3) การขยายโครงการนำร่องระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2015 ออกไปอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ประเทศสมาชิกบางประเทศที่เพิ่งเข้าร่วมโครงการ เช่น
กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม ได้มีเวลาในการทดสอบระบบและเตรียมความพร้อมอย่างพอเพียง และ
อาเซียนจะได้มีเวลาในการทำระเบียบปฏิบัติฯ มากขึ้น ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการนำร่องระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของ CLMV ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ส่งออกไทยให้สามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองในการส่งออกไปยังตลาดเหล่านี้ได้
นอกจากนี้ อาเซียนพร้อมที่จะประกาศรายการสินค้าของกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม (CLMV) ที่จะลดภาษีในปี 2018 เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนล่วงหน้าในการดำเนินธุรกิจการค้าและขยายการลงทุนในอาเซียน โดยเฉพาะ CLMV ได้ และจะเปิดตัวระบบคลังข้อมูลทางการค้าของอาเซียน (ATR/NTR) ในเดือนพฤศจิกายน 2558 ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่ายให้ผู้ส่งออกไทยโดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถเข้าไปค้นหาข้อมูลมาตรการทางการค้าของประเทศสมาชิกอาเซียนได้ ณ จุดเดียวขณะเดียวกันจะปรับปรุงกลไกการแจ้งประเด็นปัญหาด้านการค้าและการลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยระบบใหม่นี้ภาคเอกชนสามารถที่จะเข้ามาแจ้งปัญหาด้านการค้าและการลงทุนในอาเซียน และประเทศสมาชิกที่ได้รับการร้องเรียนจะต้องชี้แจงและแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
“ผลสำเร็จของการดำเนินการด้านการค้าสินค้าเหล่านี้ นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจการค้าของภาคเอกชนไทยแล้ว ยังจะช่วยส่งเสริมให้ไทยสามารถส่งออกไปยังตลาดอาเซียนซึ่งมีประชากรกว่า 600 ล้านคน ได้เพิ่มมากขึ้น” นางอภิรดี กล่าว
กระทรวงพาณิชย์
19 สิงหาคม 2558
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630