ทั้งสองฝ่ายหารือถึงประเด็นความร่วมมือต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาแนวทางในการขยายการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าชายแดน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการค้าระหว่างสองประเทศ ผลการประชุมประกอบด้วยประเด็นสำคัญ ดังนี้
- ทั้งสองฝ่ายยินดีกับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการค้าสองฝ่ายแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และเห็นว่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชากันยังขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาเซียนก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจในปลายปี 2558
- ฝ่ายไทยเสนอยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเมืองหน้าด่านไทยและกัมพูชา เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ และส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนระหว่างกัน โดยฝ่ายกัมพูชารับที่จะพิจารณาข้อเสนอในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อหารือในรายละเอียดถึงการจัดทำยุทธศาสตร์ดังกล่าวร่วมกัน และจะแจ้งผลให้ฝ่ายไทยทราบภายในไตรมาสแรกของปี 2559
- ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อผลการประชุมคณะผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 5 ในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยและกัมพูชา รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดน
- ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการเร่งเจรจาหาข้อสรุปบทเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนสิทธิจราจรระหว่างไทยกับกัมพูชาภายใต้กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) เพื่อขยายโควตาจำนวนใบอนุญาตรถขนส่งระหว่างกัน และเร่งดำเนินการเจรจาจัดทำความตกลงทวิภาคีด้านการขนส่งทางถนนระหว่างไทยและกัมพูชา
- เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ โลจิสติกส์ และห่วงโซ่การผลิต รวมถึงใช้ประโยชน์จากความเกื้อกูลในเชิงเศรษฐกิจของไทยและกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนการดำเนินงานของคณะทำงานร่วมด้านการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษระหว่างไทยและกัมพูชาในการเชื่อมโยงเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดสระแก้วกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย และจังหวัดตราดกับจังหวัดเกาะกง
- ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันในการจัดงานแสดงสินค้าทั้งในไทยและกัมพูชาต่อไป
- ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมมือในการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนแนวคิด "สองอาณาจักร หนึ่งจุดหมายปลายทาง" ภายใต้บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยกับกระทรวงการท่องเที่ยวและความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของกัมพูชา นอกจากนี้ ไทยได้เชิญชวนให้กัมพูชาเข้ามาร่วมในโครงการถนนสายผ้าทอของไทย ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการทอผ้าพื้นบ้าน เศรษฐกิจชุมชน และการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของไทย เช่น จังหวัดสุรินทร์ และ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งกัมพูชาแสดงความสนใจในโครงการดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายจึงตกลงที่จะหารือถึงความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงโครงการนี้ระหว่างสองประเทศ
- ทั้งสองฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายห่วงโซ่มูลค่าของเอเชีย ในการนี้ ฝ่ายไทยยินดีจะให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ภาครัฐของกัมพูชาในสาขาที่กัมพูชามีความสนใจ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจุบันกัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับที่ 8 ของไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 22 ของไทยในโลก ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2553-2557) การค้าไทยกับกัมพูชา มีมูลค่าเฉลี่ยประมาณปีละ 3,837 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย ร้อยละ 25.0 ต่อปี โดยในปี 2557 การค้ารวมไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 5,115.19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับช่วง 10 เดือนแรกของปี 2558 การค้ารวมไทย-กัมพูชามีมูลค่ารวม 4,573.39 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.35 เป็นการส่งออก 4,024.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการนำเข้า 548.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ปูนซีเมนต์ น้ำตาลทราย รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก ยานพาหนะอื่นๆ และส่วนประกอบเคมีภัณฑ์ และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งจากผัก ผลไม้ ลวดและสายเคเบิล สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช รองเท้า สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
4 ธันวาคม 2558
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630