นางสาวศิรินารถ กล่าวว่า การประชุม CCA เป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกใช้หารือร่วมกันเพื่อติดตามการปฏิบัติตามพันธกรณีของความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน รวมทั้งการพิจารณาแนวทางในการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยจะมีการหารือแนวทางที่จะผลักดันการดำเนินการลดภาษีสินค้าระหว่างกันเพิ่มเติมจากเดิมที่ประเทศสมาชิกเก่าของอาเซียนทั้ง 6 ประเทศได้ลดภาษีเป็น 0 ตั้งแต่ปี 2553 โดยขณะนี้อาเซียนยังมีสินค้าอ่อนไหวบางรายการ รวมไปถึงมีรายการสินค้าที่บางประเทศสงวนไว้เป็นสินค้าที่ไม่นำมาลดภาษี เช่น ปิโตรเลียม (เวียดนาม) สินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (มาเลเซียและอินโดนีเซีย) เป็นต้น ในขณะที่ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม จะต้องดำเนินการยกเลิกภาษีที่เหลือจากการลดภาษีในปี 2558 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 ขณะเดียวกันอาเซียนจะหารือแนวทางที่จะให้ประเทศสมาชิกให้สิทธิประโยชน์กับอาเซียนโดยอัตโนมัติ (automatic MFN) หากให้สิทธิประโยชน์กับประเทศนอกกลุ่มดีกว่าอาเซียน เป็นต้น
นอกจากนี้ อาเซียนจะเร่งหาข้อสรุปเรื่องแผนยุทธศาสตร์ด้านการค้าสินค้าหลังปี 2015 (AEC 2025 Strategic Action Plan) เพื่อเป็นแนวทางในการเปิดเสรีการค้าสินค้าในเชิงลึกและกว้างยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมการเป็นตลาดและฐานการผลิตร่วมของอาเซียนให้มีความเข้มแข็งและเป็นส่วนสำคัญหนึ่งของระบบห่วงโซ่อุปทานโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินการของอาเซียนเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการทั้งในส่วนของการลดภาษี รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกทางการค้าแก่ผู้ประกอบการ โดยได้จัดทำระบบคลังข้อมูลการค้าของอาเซียน (ASEAN ATR) ซึ่งเชื่อมโยงด้านกฎระเบียบและภาษีของสมาชิกไว้ด้วยกัน ซึ่ง คลังข้อมูลการค้าของไทย (Thailandntr.com) ได้เชื่อมโยงกับอาเซียนแล้ว นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดการเจรจาจัดทำระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองโดยผู้ส่งออกของอาเซียน ให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ส่งออกในการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630