การเดินทางเยือนรัฐสุลต่านโอมานและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านของรองนายกรัฐมนตรี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 28, 2016 15:14 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีกำหนดเดินทางเยือนรัฐสุลต่านโอมานและสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 31 มกราคม - 5 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับโอมานและอิหร่าน โดยในการเยือนโอมานและอิหร่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะพบปะหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมของโอมาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้าของอิหร่าน รวมถึงประธานองค์กรภาคเอกชนของโอมานและอิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการเยือนสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านครั้งนี้ สองฝ่ายได้เห็นพ้องให้มีการตั้งเป้าหมายการค้าสองฝ่ายให้ขยายตัวถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564 หรือ ปี 2021) โดยรองนายกรัฐมนตรีจะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงทางการค้าระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้า ของอิหร่าน (Mr. Mohammad Reza Nematzadeh) ความตกลงทางการค้าไทย - อิหร่าน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้า รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ระหว่างไทยกับอิหร่าน เพื่อเป็นกลไกสำหรับหารือในประเด็นด้านเศรษฐกิจการค้า ลดปัญหาอุปสรรคระหว่างกัน รวมทั้งการจัดทำ Preferential Trade Agreement (PTA) เพื่อเปิดตลาดการค้ากับอิหร่าน การเยือนอิหร่านของรองนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ มีภาคเอกชนไทยรายใหญ่และนักธุรกิจที่สนใจตลาดอิหร่านร่วมเดินทางด้วยกว่า 70 บริษัท โดยรองนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการเปิดงาน Business Forum และ Business Matching ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ประกอบการอิหร่าน ในขณะนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากภาคเอกชนของไทยและอิหร่านประมาณ 400 - 500 คน

การเยือนครั้งนี้ อิหร่านมีความต้องการซื้อสินค้าจากไทยหลายรายการ โดยเฉพาะข้าว น้ำตาล และ ยางพารา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้นำคณะผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าวร่วมคณะไปเจรจาการค้ากับผู้นำเข้าอิหร่านด้วย สำหรับสินค้าอื่นๆ ที่อิหร่านมีความต้องการนำเข้า ได้แก่ ผลไม้ อาหารกระป๋อง ไม้ กระดาษ ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า (ตู้เย็น/เครื่องปรับอากาศ) ยาและเวชภัณฑ์ และของตกแต่งบ้าน ทั้งนี้คาดว่า หลังจาการยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเงิน ไทยและอิหร่านจะสามารถขยายการค้าระหว่างกันได้อีกมาก นอกจากนี้ อิหร่านแสดงเจตนารมณ์ต้องการพัฒนาความร่วมมือกับไทยในสาขาต่างๆ โดยเฉพาะการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทยและการลงทุนในเขตปลอดอากรของอิหร่าน สาขาอุตสาหกรรมที่อิหร่านต้องการให้ไทยมาลงทุน ได้แก่ สิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม ชิ้นส่วนยานยนต์ การขนส่ง พลังงาน และอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูง เป็นต้น

อิหร่านเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ มีประชากรกว่า 80 ล้านคน เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง และสามารถเป็นฐานกระจายสินค้าไปยังภูมิภาค CIS (ประชากร 100 กว่าล้านคน) ซึ่งไม่มีทางออกทะเล ปัจจุบัน การค้าระหว่างไทยกับอิหร่านยังมีมูลค่าน้อยอันเป็นผลมาจากการถูกคว่ำบาตรจากสหประชาชาติและประเทศมหาอำนาจ โดยในปี 2558 การค้าระหว่างกันมีมูลค่าเพียง 309.49 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับอิหร่านมูลค่า 125.41 ล้านเหรียญสหรัฐ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์

28 มกราคม 2559

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ