นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ครั้งที่ 22 เมื่อวันที่ 17 – 18 พฤษภาคม 2559 ณ เมืองอาเรกีปา สาธารณรัฐเปรู ว่าที่ประชุมได้มีการหารือและพิจารณาใน 3 เรื่องหลัก คือ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ที่มุ่งไปสู่การเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) ซึ่งขณะนี้ สมาชิกเขตเศรษฐกิจได้ร่วมกันจัดทำการศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ฯ พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางสำหรับการจัดทำความตกลง FTAAP ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและจะเสนอต่อที่ประชุมผู้นำเอเปคในปลายปีนี้ ทั้งนี้ การจัดทำ FTAAP จะเป็นเป้าหมายต่อไปของเอเปค หลังจากการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนภายใต้เป้าหมายโบกอร์ที่จะสิ้นสุดลงในปี 2563
นายวินิจฉัย กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ยังได้หารือความคืบหน้าการจัดทำแผนการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าบริการในระยะยาว โดยคำนึงถึงระดับการพัฒนาของแต่ละเขตเศรษฐกิจอีกด้วย สำหรับประเด็นที่ 2 ได้แก่ การสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีภายใต้ WTO ที่ประชุมขอให้เขตเศรษฐกิจต่างๆ เร่งการเจรจาในประเด็นคงค้างของการเจรจารอบโดฮาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยจัดลำดับความสำคัญและกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน การเจรจาต้องตั้งอยู่บนความโปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ และประเด็นที่ 3 การส่งเสริม SMEs เข้าสู่ตลาดโลก โดยเห็นถึงความสำคัญของ SMEs ในการเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสนับสนุนการพัฒนา SMEs ให้เข้าไปมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าโลกมากขึ้น ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า จะต้องให้ความช่วยเหลือเพื่อพัฒนาความสามารถแก่ SMEs
นายวินิจฉัย กล่าวเสริมว่า ไทยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า ไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริม SMEs โดยถือเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี 2557 และได้เสริมสร้างความสามารถและให้ความรู้แก่ SMEs ในการใช้ E-commerce จนได้รับรางวัล World Summit of Information Society Prize (WSIS) ปี 2015 ในประเภทการเสริมสร้างความสามารถ สำหรับโครงการ Smart Online SMEs (S.O.S.) และยังได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ SMEs ในสาขาธุรกิจการเกษตร
ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ยังได้พบหารือสองฝ่ายกับ 6 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสาธารณรัฐเปรู เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับความตกลง TPP เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมการของไทย และติดตามประเด็นภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งเร่งให้สาธารณรัฐเกาหลีส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบโรงงานไก่แช่แข็ง และเร่งกระบวนการพิจารณาเปิดตลาดมะม่วงพันธุ์มหาชนกจากไทย
การประชุมเอเปคในปีนี้ จะมีอีก 2 ครั้ง คือ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3/2559 ในเดือนสิงหาคมนี้ และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในเดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งน่าจะได้เห็นความชัดเจนมากขึ้น ในเรื่องการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งจะเป็นผลลัพธ์สำคัญของการดำเนินงานของเอเปคต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
27 พฤษภาคม 2559
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630