รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย(นางอภิรดี ตันตราภรณ์) และรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของตุรกี (นาย Nihat Zeybek?i)ได้ประกาศการเปิดเจรจา FTA ระหว่างไทยกับตุรกี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี พร้อมตั้งเป้าการค้าให้มีการขยายตัว 2 เท่า ภายใน 3 ปี และได้เริ่มการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างกันรอบแรก ในวันที่ 19-20 กรกฎาคม 2560
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการเจรจา FTA ไทย-ตุรกี เปิดเผยว่า การเจรจาครั้งแรกที่ประเทศตุรกีเป็นเจ้าภาพนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงให้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างกัน เป็นความตกลงที่ครอบคลุมด้านการค้าสินค้า รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า พิธีการศุลกากร มาตรการเยียวยาทางการค้า มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรการทางเทคนิคต่อการค้า เป็นต้น นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงแผนการเจรจา FTA และเป้าหมายการเจรจาในแต่ละรอบอย่างชัดเจน เพื่อเป็นแนวทางให้การดำเนินการเจรจาสามารถเสร็จสิ้นได้ภายในกำหนด ทั้งนี้ มีความมุ่งมั่นให้การเจรจาแล้วเสร็จในปลายปี 2561 ซึ่งเป็นปีฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับตุรกี โดยทั้งสองฝ่ายตกลงให้มีการประชุมทุก 3เดือน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งต่อไปในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2560
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวว่า การจัดทำ FTA ไทย-ตุรกี จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศทั้งด้านการค้าและการลงทุน เพราะเป็นการขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งในรูปภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี การส่งออกสินค้าของไทยไปประเทศตุรกีและประเทศใกล้เคียงในภูมิภาค เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการลงทุนของทั้งสองประเทศและนักลงทุนจากต่างประเทศ
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวเสริมว่า ทั้งสองประเทศตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยตุรกีมีที่ตั้งที่สามารถเป็นแหล่งการลงทุนและกระจายสินค้าสำหรับประเทศไทยไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียกับยุโรปในทางกลับกันประเทศไทยก็ตั้งอยู่ตรงกลางของประเทศในกลุ่มอาเซียน และสามารถเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าและแหล่งลงทุนแห่งใหม่ให้แก่ตุรกีได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไทยและตุรกียังคงมีลู่ทางขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกันอย่างมาก
ในปี 2559 ตุรกีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 35 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 4 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 1,370.69 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 9.46 และมูลค่าการค้าสองฝ่ายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.33 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 772.34 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 1071.50 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 9.46 และนำเข้ามูลค่า 299.2 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 28.24 ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 609.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.81 และมูลค่าการค้าสองฝ่ายคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.34 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้า 419.07 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 514.19 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 13.18 และนำเข้ามูลค่า 95.11 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 14.19 ซึ่งคาดว่าหากการเจรจาสำเร็จเรียบร้อย และ FTA มีผลบังคับใช้จะทำให้ไทยและตุรกีสามารถบรรลุเป้าการค้าระหว่างกันที่กำหนดไว้ที่ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้าส่งออกของไทยที่มีศักยภาพ เช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เส้นใยประดิษฐ์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด ด้ายและเส้นใยประดิษฐ์ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าจากตุรกี เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป กระจก แก้ว และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องประดับอัญมณี ผลิตภัณฑ์ทำจากพลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
19 กรกฎาคม 2560
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630