นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ได้พบกับนายเจิ่น กว๊วก แข๊ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสที่ได้เดินทางไปยังสาธารณรัฐสิงคโปร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน หรือ HLTF-EIโดยได้หารือถึงความร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนาม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจและการค้า และขยายผลของความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศจะเติบโตไปด้วยกันอย่างแท้จริง ตลอดจนการร่วมกันขจัดอุปสรรคทางการค้า เพื่อผลักดันมูลค่าการค้าระหว่างไทยและเวียดนาม ให้สามารถบรรลุเป้าหมายการค้าที่ทั้งสองประเทศได้ตั้งไว้ที่ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า ไทยได้ใช้โอกาสนี้แจ้งเวียดนามถึงข้อกังวลของภาคเอกชนไทย เกี่ยวกับการออกกฎระเบียบเกี่ยวกับเงื่อนไขการผลิต การค้า และการนำเข้ารถยนต์(Decree 116)ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์จากไทยไปเวียดนาม ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ซึ่งกำหนดให้รถยนต์ที่นำเข้าทุกการขนส่ง (shipment)จะต้องตรวจไอเสียและความปลอดภัย และมีเอกสารรับรองจากหน่วยงานของประเทศผู้ส่งออก (VehicleType ApprovalCertificate) โดยเวียดนามขอให้มั่นใจว่าเวียดนามใช้ระเบียบนี้เพื่อควบคุมความปลอดภัยของรถยนต์จากทุกประเทศ และพร้อมที่จะพิจารณายอมรับ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะพิจารณานำระบบการออกเอกสารรับรองข้างต้นด้วยตัวเองของภาคเอกชนมาใช้ (Self-Certification) รวมทั้งเวียดนามไม่ได้เลือกปฏิบัติระหว่างรถยนต์ของเวียดนามและรถยนต์ที่นำเข้าจากต่างชาติ เนื่องจากรถที่ผลิตในเวียดนามเองก็ต้องผ่านการทดสอบทุกล้อตเช่นกัน ทั้งนี้ เวียดนามยินดีที่จะสร้างความกระจ่างเพิ่มเติม พร้อมจัดส่งเอกสารข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ไทยได้คลายข้อสงสัยทั้งหมด ทั้งสองฝ่ายจึงเห็นพ้องที่จะพิจารณาว่าในระยะยาวจะจัดทำข้อตกลงยอมรับร่วม หรือ MRA ระบบการตรวจสอบรถยนต์ของสองประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกันในอนาคต
นางนันทวัลย์ กล่าวเสริมว่า ไทยยังได้สอบถามถึงระเบียบใหม่ของเวียดนาม (Decree 125) ซึ่งกำหนดอัตราภาษีสินค้าหลายรายการ เช่น รถยนต์ใช้แล้ว เครื่องจักร ชิ้นส่วนยานยนต์ และการประกาศอัตราภาษีนอกโควตาในบางกลุ่มสินค้า ที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อผูกพันการลดภาษีของเวียดนามภายในอาเซียน ซึ่งเวียดนามยืนยันว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้บังคับใช้กับประเทศสมาชิกอาเซียน เอกชนไทยจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 7ของไทยในโลก และอันดับที่ 4 ของไทยในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยในปี 2560การค้ารวมไทย-เวียดนาม มีมูลค่า 16,635ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่ ผ่านมาร้อยละ 20.2 โดยไทยส่งออกสินค้าไปเวียดนามรวมมูลค่า 11,662ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7และนำเข้าสินค้าจากเวียดนามรวมทั้งสิ้น 4,973 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องดื่ม เครื่องจักรกลและส่วนประกอบเครื่องจักร เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
25 มกราคม 2561
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630