นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ไปเป็นประธานเปิดการสัมมมนาเรื่อง “Uplift CLMV Experience :เปิดประตูเมียนมาสู่โลกการค้าเสรีอาเซียน” เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน การสัมมนาดังกล่าวเป็นการบูรณาการระหว่างกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อระดมสมอง หาความต้องการที่แท้จริงในการยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านห้วยต้นนุ่น เป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อให้การค้าชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอนกับเมียนมาด้านตะวันออก ได้แก่ เมืองลอยก่อ (รัฐคะยา) ตองอู (รัฐบาโก) ตองยี (รัฐฉาน) มัณฑะเลย์ และกรุงเนปิดอว์ ของเมียนมา รวมทั้งการท่องเที่ยวระหว่างกัน มีความสะดวกมากขึ้น สามารถเดินทางไปกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมาเพียง 220 กิโลเมตร (6 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเส้นทางจากชายแดนไทย ที่สั้นและสะดวกที่สุดกว่าเส้นทางอื่น นอกจากนี้ยังเป็นการรวบรวมปัญหา และร่วมกันหามาตรการรองรับ การยกระดับจุดผ่านแดนดังกล่าว ทั้งทางด้านการก่อสร้างเส้นทางคมนาคม การสร้างอาคารถาวรของจุดผ่านแดน การจัดหาเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประจำด่าน (Hardware) และการวางระบบสื่อสาร ระบบจัดเก็บข้อมูล สถิติต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับสินค้า และนักท่องเที่ยว (Software) ทั้งของฝ่ายเมียนมาและฝ่ายไทยเอง ตลอดจนแนวทางในการปรับตัวของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
นายรณรงค์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านห้วยตันนุ่น ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่เงา อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากอำเภอขุนยวมเพียง 38 กิโลเมตร เป็น 1 ใน 5 ของจุดผ่อนปรนทางการค้าในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่ทั้งฝ่ายไทยและเมียนมามีความต้องการที่จะขยายเศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมทางด้านโลจิสติกส์ และประสิทธิภาพการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ภาครัฐของทั้งสองฝ่าย จึงเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าที่มีศักยภาพที่จะยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรมากที่สุด
การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปี 2558-2561 มีมูลค่า 1.56, 1.22 และ 1.19 ล้านบาท ตามลำดับ สินค้าออกที่สำคัญ ได้แก่ สุราต่างประเทศ ผงชูรส กาแฟปรุงสำเร็จรูป เบียร์กระป๋อง และบุหรี่ สินค้าเข้าที่สำคัญ ได่แก่ โค กระบือ มีชีวิต (ร้อยละ 93) สินแร่ดีบุก พริกแห้ง เปลือกไม้ และสินค้าไปรษณีย์ ปัจจุบันรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้เห็นถึงความสำคัญในการยกระดับจุดผ่านปรนห้วยค้นนุ่นให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร แต่ให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งสองฝ่ายไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยก่อนประกาศการยกระดับเป็นทางการต่อไป ซึ่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะต้องไปเจรจาทวิภาคีกับรัฐบาลเมียนมา เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าชายแดนมาประจำจุดผ่านแดน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องไปขอเอกสารรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form D)ถึงกรุงเนปิดอว์ ทำให้ผู้ประกอบการได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเสรี ASEAN หรือ AECให้ได้มาก และสะดวกที่สุด
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ