พาณิชย์เดินหน้า ให้ความรู้เกษตรกรเรื่อง เอฟทีเอ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 11, 2007 13:16 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

         กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์   รุกให้ความรู้กับเกษตรกร เกี่ยวกับการเจรจาการค้าเสรีสินค้าเกษตร  เชื่อหากเกษตรกรมีความเข้าใจเกี่ยวกับการเปิดการค้าเสรี  จะทำให้สามารถปรับตัว  ได้ไว เพื่อใช้ประโยชน์  และลดผลกระทบในเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดให้มีการเสวนา หัวข้อ “เอฟทีเอเดินหน้า…ชักช้าเราจะไปไม่ทัน” ที่ร้านค้าชุมชน ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีผู้นำความคิด เกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก จากจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี มาร่วมงานมากกว่า 150 คน ซึ่งนายนพดล สระวาสี รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจ ที่เกษตรกรต่างก็มีความตื่นตัว สนใจมาร่วมงาน เพื่อเปิดรับข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเขตการค้าเสรี โดยทางกรมฯ ได้มีโอกาสตอบข้อสงสัยหลายประการ ของเกษตรกรโดยเฉพาะความสำคัญ ความเกี่ยวข้องกับเกษตรกร ซึ่งได้มีการเน้นย้ำให้เกษตรกรเห็นถึงความจำเป็นและความสำคัญในฐานะเป็นผู้ผลิตที่จะต้องมีความเข้าใจและเริ่มปรับตัว พัฒนาคุณภาพการผลิต โดยเฉพาะการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ เสริมสร้างศักยภาพรองรับโอกาส และช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่เกิดจากการเจรจาเปิดตลาดสินค้าเกษตรกับประเทศคู่เจรจาต่างๆ รวมถึงเตรียมการเพื่อหาทางป้องกัน หรือลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จากการแข่งขัน
ด้านนายฉลอง โตยะบุตร เกษตรอำเภอไทรโยค กล่าวว่า เกษตรกรส่วนใหญ่ที่จังหวัดกาญจนบุรีได้ยินเรื่องเอฟทีเอ จากสื่อต่างๆ บ้างเหมือนกัน แต่ไม่ทราบในรายละเอียดมากนัก โดยส่วนตัวเชื่อว่า ผลจากการเจรจาการค้าเสรี จะทำให้มีการเปิดตลาดการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ โดยไม่ต้องเสียภาษีและจะช่วยทำให้เกษตรกรมีช่องทางการค้าขายมากขึ้น ซึ่งหวังว่าจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นด้วย ทั้งนี้การที่ ภาครัฐจะลงพื้นที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับเอฟทีเอนั้นเป็นสิ่งที่ดีและต้องการให้มีความต่อเนื่อง เพราะขณะนี้รุ่นลูกหลานของเกษตรกรที่มีการศึกษาและรู้จักนำความรู้มาใช้ในการประกอบชีพนั้นก็มีความตื่นตัวกับความรู้ใหม่ๆ และหวังที่จะมีการพัฒนาการผลิต เพื่อหาช่องทางและโอกาสที่กว้างขึ้น
สำหรับคุณปภาวี สุทธาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทสวิฟท์ จำกัด กล่าวว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือเกษตรกรที่ต้องการปรับตัวสู่การใช้วิธีเกษตรอินทรีย์ โดยบริษัทมีการดูแลในเรื่องการตลาด การรับซื้อสินค้า แต่ทั้งนี้สินค้าของเกษตรกรจะต้องได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดด้วย ซึ่งจากการทำตลาดต่างประเทศพบว่าความต้องการของตลาดยังมากอยู่ หากเกษตรกรรวมกลุ่มผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าจะเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ อันจะส่งผลทำให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำหรับประโยชน์ที่ได้จากการเปิดเสรี เห็นว่าเมื่อภาษีเป็นศูนย์จะช่วยในเรื่องต้นทุนในการส่งสินค้าลดลงเนื่องจากสามารถส่งสินค้าไปขายได้โดยไม่ต้องเสียภาษี ทำให้ขายสินค้าได้มากขึ้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ