การค้าผักผลไม้ภายใต้ FTA อาเซียน-จีน ไทยได้ดุล

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 11, 2007 13:18 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นางสาวชุติมา  บุณยประภัศร  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่อาเซียนและจีนได้เริ่มลดภาษีสินค้าเกษตรไม่แปรรูป (พิกัดอัตราศุลกากร 01-08) ซึ่งรวมถึงสินค้าผักและผลไม้ภายใต้เขตการค้าเสรีตั้งแต่ 1 มกราคม 2547 และได้ลดภาษีลงเหลือร้อยละ 0 แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549  ส่งผลให้ที่ผ่านมาการค้าขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากในปี 2547 มูลค่า 498.80 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 802.30 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2549  โดยไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจีนในการค้าสินค้าดังกล่าวมาโดยตลอด  สินค้าที่สำคัญในกลุ่มนี้ ได้แก่ ปลาและสัตว์น้ำ เช่น ปลาแช่แข็ง กุ้งสด แช่เย็น แช่แข็ง สินค้าผักและผลไม้ เช่น มันสำปะหลัง พืชผักแช่เย็น  และสินค้าผลไม้ 
สำหรับการลดภาษีสินค้าผักและผลไม้ ไทยและจีนได้เร่งลดภาษีระหว่างกันก่อนอาเซียนอื่นๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 ซึ่งการค้ามีการขยายตัวมาอย่างต่อเนื่องและไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามาโดยตลอด โดยการส่งออกสินค้าผัก (พิกัดฯ 07) มีอัตราการขยายตัว ในปี 2547-2549 เฉลี่ยร้อยละ 41.10 ต่อปี ในขณะที่การนำเข้าขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 30.15 ต่อปี สินค้าสำคัญไทยที่มีการส่งออกมากในกลุ่มนี้ คือ มันสำปะหลัง สำหรับสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ แครอท เห็ดแห้ง ดอกกะหล่ำ บล็อกโคลี่ กระเทียม เห็ดหูหนูแห้ง หอมหัวใหญ่และหอมหัวเล็ก
ส่วนสินค้ากระเทียมและหอมหัวใหญ่ ซึ่งอยู่ในกลุ่มเร่งลดภาษีระหว่างไทยกับจีน เป็นสินค้าที่มีมาตรการโควตาภาษีซึ่งไทยจะลดภาษีเฉพาะในโควตาเท่านั้น (กระเทียมมีโควตานำเข้าปีละ 65 ตัน ในขณะที่หอมหัวใหญ่มีโควตา 365 ตัน) โดยจะต้องขออนุญาตก่อนการนำเข้า ทั้งนี้ ยังไม่มีการนำเข้าสินค้าดังกล่าวจากจีนภายใต้โควตา แต่เป็นการนำเข้ากระเทียมและหอมหัวใหญ่นอกโควตาซึ่งไม่มีการลดภาษีที่มีอัตราสูงถึงร้อยละ 57 และร้อยละ 142 ตามลำดับ
นอกจากนี้สินค้าผลไม้ (พิกัดฯ 08) แม้ในบางด่านจะมีปริมาณนำเข้ามากกว่าการส่งออก แต่การส่งออกในด่านอื่นที่มีความสะดวกมากกว่าก็มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจีนมาโดยตลอดตั้งแต่มีการเปิดเสรีการค้าระหว่างกัน โดยการส่งออกขยายตัวเฉลี่ยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 16.81 ในขณะที่การนำเข้าขยายตัวเฉลี่ยประมาณร้อยละ 13.65 สินค้าผักผลไม้นำเข้าจากจีนที่สำคัญ ได้แก่ แครอทและเทอร์นิป กระเทียม แอปเปิ้ล แพร์ แปะก๊วย สินค้าผักผลไม้ส่งออกไปยังจีนที่สำคัญ ได้แก่ มันสำปะหลัง ทุเรียน ลำไย มังคุด
ทั้งนี้ ไทยและจีนจะต้องมีการตรวจสอบด้านสุขอนามัยกับพืชผักผลไม้ก่อนจะนำเข้าประเทศ รวมทั้งสินค้าเกษตรจากต่างประเทศที่ส่งเข้าไปจีนจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 13 ซึ่งจีน เรียกเก็บจากสินค้าของทุกประเทศในอัตราเดียวกัน รวมถึงผู้ประกอบการผักผลไม้ในจีนด้วย สำหรับประเทศไทยมีการยกเว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไม่แปรรูปซึ่งไทยได้ยกเว้นการเก็บภาษีนี้จากทุกประเทศเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ปัจจุบันจีนอนุญาตให้บริษัทต่างชาติสามารถเป็นผู้นำเข้าได้แต่ต้องมีคุณสมบัติตามระเบียบ เช่น จะต้องตั้งอยู่ในประเทศจีน และมีทุนจดทะเบียน และรูปแบบการจัดตั้งบริษัทที่รัฐบาลจีนกำหนด
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ