‘พาณิชย์’ แจ้งสำนักเลขาธิการอาเซียน ไทยพร้อมเริ่มใช้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกงแล้ว และจะใช้โอกาสที่ไทยเป็นประธานอาเซียนผลักดันให้ความตกลงมีผลบังคับใช้กลางปีนี้ ย้ำผู้ประกอบการเตรียมตัวใช้ประโยชน์ เมื่อความตกลงฯ มีผลใช้บังคับ หวังบรรลุเป้าการค้าไทย – ฮ่องกง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยได้แจ้งเลขาธิการอาเซียนว่า พร้อมจะเริ่มใช้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Free Trade Agreement: AHKFTA) และความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Investment Agreement: AHKIA) แล้ว หลังจากรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนและฮ่องกงได้ลงนามความตกลงทั้งสองฉบับ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 ขณะนี้เหลือเพียงรอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ พร้อมคาดว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงดังกล่าวได้ก่อนกลางปี 2562 ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมกับสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง จัดสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมและชี้โอกาสให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากความตกลงดังกล่าวอย่างเต็มที่
นางอรมน กล่าวว่า นอกจากไทยแล้ว ยังมีฮ่องกงและสิงคโปร์ที่ได้แจ้งความพร้อมที่จะเริ่มใช้ความตกลงทั้งสองฉบับแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดี ความตกลงฯ ยังไม่มีผลใช้บังคับ จนกว่าจะมีประเทศสมาชิกอาเซียนอีกอย่างน้อย 2 ประเทศ แจ้งความพร้อมต่อสำนักเลขาธิการอาเซียน ไทยในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ จึงขอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ที่เหลือเร่งรัดกระบวนการภายในให้เสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปีนี้
นางอรมน กล่าวเสริมว่า ความตกลงดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ด้านการค้าสินค้า ฮ่องกงจะได้ประโยชน์จากการที่อาเซียนลดภาษีศุลกากรให้และสามารถส่งสินค้ามาอาเซียนในอัตราภาษีที่ต่ำลง ในขณะที่อาเซียนจะได้ประโยชน์จากการที่ฮ่องกงตกลงว่า ในอนาคตจะไม่ขึ้นภาษีสินค้าที่มีอัตราภาษีเป็น 0 ทุกรายการภายใต้ AHKFTA สำหรับการค้าบริการ ฮ่องกงเปิดตลาดภาคบริการให้อาเซียนมากกว่าที่ผูกพันภายใต้ WTO โดยเฉพาะการเปิดตลาดการค้าบริการเพิ่มเติมตามที่ไทยเรียกร้องในสาขาบริการด้านการผลิตเนื้อหารายการแก่ผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ โดยไทยสามารถถือหุ้นร้อยละ 100 แบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งผู้ประกอบการไทยมีความเชี่ยวชาญในสาขาดังกล่าวจะสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจได้อย่างครบวงจรในฮ่องกง ในส่วนของการลงทุน ความตกลง AHKIA ครอบคลุมการคุ้มครองการลงทุนและการอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนให้กับนักลงทุนของอาเซียนและฮ่องกง อาทิ คุ้มครองนักลงทุนหลังจากที่ได้เข้ามาจัดตั้งธุรกิจ และกระบวนการยื่นขออนุมัติการลงทุนที่สะดวกขึ้น ซึ่งจะทำให้นักธุรกิจและนักลงทุนไทยได้รับความสะดวกในการดำเนินธุรกิจและการเข้าถึงข้อมูลด้านกฎระเบียบของฮ่องกงมากขึ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนฮ่องกงที่มาลงทุนในไทยและนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในฮ่องกงอีกด้วย
นอกจากนี้ ฮ่องกงจะเปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย (Hong Kong Economic and Trade Office: HKETO) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562เป็นสำนักงานฯ แห่งที่ 3 ในอาเซียน จากที่มีอยู่ 2 แห่ง ในสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกิจกรรมทางการค้า การลงทุน และช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับทั้งนักธุรกิจฮ่องกงในไทยและนักธุรกิจไทยที่จะไปทำธุรกิจในฮ่องกง อีกทั้งจะช่วยเสริมบทบาทนำของไทยในการเป็นประตูการค้าและการลงทุนของอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฮ่องกงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย ในปี 2561 (ม.ค. – พ.ย.) โดยการค้าระหว่างไทยกับฮ่องกงมีมูลค่า 14,462 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ในช่วงเวลาเดียวกัน ร้อยละ 5.2 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปฮ่องกง ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ข้าว เม็ดพลาสติก สินค้านำเข้าจากฮ่องกง ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ อัญมณีและเครื่องประดับ ผ้าผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ด้านการลงทุน ในปี 2561 (ม.ค. – ก.ย.) นักลงทุนฮ่องกงได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เป็นอันดับที่ 5จำนวน 35 โครงการคิดเป็นมูลค่า 8,950 พันล้านบาท
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
11 มกราคม 2562
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ