นายนพดล สระวาสี รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เปิดเผยถึง การเข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจของอาเซียน (SEOM) ครั้งที่ 1/39 ระหว่างวันที่ 19-22 มกราคม 2551 ณ เมืองบาเกียว ประเทศฟิลิปปินส์ ว่าการประชุมครั้งนี้มีประเด็นสำคัญที่จะพิจารณา คือ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน สืบเนื่องจากที่ผู้นำอาเซียนได้ลงนามในปฏิญญาว่าด้วยแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 ที่ประเทศสิงคโปร์ และได้ประกาศให้ปี 2551 เป็นปีแห่งการสร้างความตระหนักรับรู้เรื่องประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่ประชุมจะได้พิจารณาแนวทางการติดตามประเมินผล โดยการจัดทำ AEC Scorecard ซึ่งจะมีการวัดผลเป็นรายไตรมาส และตรวจสอบการดำเนินงานตามแผนงานต่างๆ อย่างจริงจัง รวมถึงการจัดทำชุดเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ (AEC Toolkit) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้สาธารณชนทั่วไปได้รับทราบอย่างทั่วถึง
สำหรับเรื่องเขตการค้าเสรีอาเซียน จะพิจารณาให้การรับรองกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะทำงานเพื่อเจรจาความตกลงด้านการค้าสินค้าของอาเซียน พร้อมหลักการของการจัดทำความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียนฉบับใหม่เพื่อให้มีความทันสมัยและทันกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆในภูมิภาค แทนความตกลงว่าด้วยอัตราภาษีพิเศษร่วมสำหรับเขตการค้าเสรีอาเซียน (CEPT) เดิม ซึ่งอาเซียนได้เริ่มใช้มาตั้งแต่ ปี 2535 และได้มีการปรับปรุงแก้ไขมาหลายครั้ง โดยได้ตั้งเป้าหมายที่จะเจรจาสรุปความตกลงการค้าสินค้าฉบับใหม่ให้เสร็จภายในปลายปีนี้ ส่วนเรื่องการค้าบริการและการลงทุน จะพิจารณาให้แนวทางสำหรับประเทศสมาชิกที่ยังไม่สามารถเปิดตลาดสาขาบริการได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ภายใต้ข้อผูกพันการค้าบริการชุดที่ 6 ซึ่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550 เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM Retreat) เดือนพฤษภาคม 2551 ในส่วนของไทยสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย โดยสาขาบริการที่นำมาจัดทำข้อผูกพันเพิ่มเติมในการเจรจารอบที่ผ่านมา ได้แก่ สาขาบริการด้านวิชาชีพ บริการด้านธุรกิจ บริการโทรคมนาคมอื่นๆ บริการการศึกษา บริการสุขภาพ บริการท่องเที่ยว บริการขนส่งทางทะเล และบริการขนส่งทางราง ทั้งนี้เรื่องการลงทุนจะได้พิจารณาให้แนวทางในการเจรจาจัดทำความตกลงด้านการลงทุนแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งครอบคลุมการคุ้มครอง ส่งเสริม อำนวยความสะดวก และการเปิดเสรีการลงทุนในอาเซียน โดยตั้งเป้าหมายที่จะสรุปความตกลงด้านการลงทุนฉบับใหม่ของอาเซียนภายในปลายปีนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ในการประชุมจะพิจารณาความคืบหน้าและให้แนวทางสำหรับการเจรจาเขตการค้าเสรีของอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาต่างๆ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหภาพยุโรป และแผนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับประเทศ+3 และสหรัฐอเมริกา (USTR) รวมทั้งพิจารณาข้อบทในเรื่องมาตรการเพื่อการคุ้มครองเสถียรภาพทางการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศ (Prudential Measures) ซึ่งเป็นประเด็นคาบเกี่ยวกับการเจรจาทุก FTA ของอาเซียน
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-