ออสซี่ใช้มาตรการ SSG ปีสุดท้ายอนาคตทูนากระป๋อง สับปะรดกระป๋องรุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 21, 2008 13:15 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

          นางสาวชุติมา  บุณยประภัศร  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ   เปิดเผยว่า  ปีนี้ (ปี 2551) เป็นปีสุดท้ายที่ออสเตรเลียจะใช้มาตรการปกป้องพิเศษ  (Special  Safeguards : SSG)  กับไทยภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (Thailand-Australia Free Trade Agreement : TAFTA)  ทำให้อนาคตทูนากระป๋อง และสับปะรดกระป๋องของไทยรุ่งแน่
ความตกลง TAFTA มีผลใช้บังคับตั้งแต่ปี 2548 ทำให้สินค้าไทยที่ส่งออกไปออสเตรเลีย ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีที่ต่ำกว่าประเทศอื่นๆ โดยการค้าสองฝ่ายขยายตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 24.93% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2550 (ม.ค.-พ.ย.) การค้ามูลค่า 302.53 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 11.43% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน โดยไทยส่งออกมูลค่า 182.04 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.66% นำเข้ามูลค่า 120.48 พันล้านบาท ลดลง 0.10% ทั้งนี้ ไทยเป็นฝ่ายเกินดุล 61.55 พันล้านบาท
มาตรการ SSG ภายใต้ TAFTA เป็นมาตรการที่ต้องการป้องกันไม่ให้การนำเข้าในอัตราภาษีที่ต่ำลงภายใต้ความตกลงฯ มากจนทำให้เกิดผลกระทบต่อภาคการผลิตในประเทศ โดยออสเตรเลียใช้มาตรการ SSG กับสินค้าไทย 4 รายการ ได้แก่ ทูนากระป๋อง สับปะรดกระป๋องบรรจุภาชนะอัดลม สับปะรดกระป๋องไม่บรรจุภาชนะอัดลม และน้ำสับปะรดกระป๋อง ซึ่งตั้งแต่ความตกลง TAFTA มีผลใช้บังคับ ไทยส่งออกสินค้า 2 รายการ ได้แก่ ทูนากระป๋อง และสับปะรดกระป๋องบรรจุภาชนะอัดลม มากเกินจำนวนที่กำหนดมาโดยตลอด โดยปีที่แล้ว (ปี 2550) ไทยส่งออก 2 รายการดังกล่าว เต็มปริมาณตั้งแต่เดือนกันยายน และตุลาคมตามลำดับ จากอัตราภาษีที่ได้รับสิทธิพิเศษ ร้อยละ 2.5% และ 0% ทำให้ในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2550 ไทยต้องเสียภาษีในอัตราปกติ 5% การส่งออกของไทยในสินค้ามาตรการ SSG ในปี 2548-2549 มีมูลค่า 4.06 และ 4.02 พันล้านบาท ตามลำดับ และในช่วง 11 เดือนของปี 2550 มูลค่า 3.90 พันล้านบาท โดยเฉพาะทูนากระป๋องนั้นไทยเป็นแหล่งนำเข้าที่สำคัญของออสเตรเลีย โดยมีสัดส่วนตลาดเป็นอันดับหนึ่ง 96.54% รองลงมาคือเวียดนาม 0.70% และฟิลิปปินส์เป็นอันดับสาม 0.65%
ในปี 2551 ออสเตรเลียกำหนดปริมาณการนำเข้าในมาตรการ SSG ได้แก่ ปลาทูนากระป๋อง จำนวน 24,734,136 กิโลกรัม สับปะรดกระป๋องบรรจุภาชนะอัดลม จำนวน 7,042,061 ลิตร สับปะรดกระป๋องไม่บรรจุภาชนะอัดลมจำนวน2,474,063 กิโลกรัม และน้ำสับปะรด จำนวน 2,407,994 ลิตร โดยสินค้าทั้ง 4 รายการ เรียกเก็บภาษี 0% แต่ถ้ามีการนำเข้าเกินปริมาณดังกล่าวจะกลับไปขึ้นภาษีที่ 5% ในขณะเดียวกันไทยยังคงใช้มาตรการ SSG กับสินค้าที่นำเข้าจากออสเตรเลียจำนวน 23 รายการ เช่น องุ่นสด เนยแข็ง และเครื่องในสัตว์ เป็นต้น ไปจนถึงปี 2563 ทั้งนี้ที่ผ่านมากรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้ติดตามกลุ่มสินค้าดังกล่าวและเผยแพร่ให้สู่สาธารณชนทราบเป็นระยะๆ แล้ว และจะยังคงติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
“ปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายที่ออสเตรเลียจะใช้มาตรการนี้กับไทยโดยปีหน้า (ปี 2552) ไทยสามารถส่งออกสินค้าทั้งสองรายการนี้ไปออสเตรเลียได้โดยไม่มีการจำกัดปริมาณ ซึ่งจะเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยสามารถขยายการค้าได้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีผู้ส่งออกไทยจะต้องรักษาคุณภาพของสินค้าให้ได้มาตรฐานเพื่อรักษาตลาดให้มีความยั่งยืนตลอดไป” อธิบดีกล่าว
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ อาคาร ค ถ.ราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โทรศัพท์ (66) 2282-6171-9 แฟกซ์ (66) 2280-0775
-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ