กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ชวนผู้ประกอบการไทย ใช้ประโยชน์ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง ที่จะมีผลใช้บังคับมิถุนายนนี้ ฮ่องกงจะเปิดตลาดภาคบริการให้อาเซียนมากกว่าที่ผูกพันภายใต้ WTO พร้อมให้การคุ้มครองธุรกิจและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนของอาเซียน มั่นใจ บรรลุเป้าการค้าไทย – ฮ่องกง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนและฮ่องกงได้ลงนามความตกลงระหว่างอาเซียนและฮ่องกง 2 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Free Trade Agreement: AHKFTA) และความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างอาเซียน-ฮ่องกง (ASEAN - Hong Kong Investment Agreement: AHKIA) เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งความตกลงทั้งสองฉบับกำลังจะมีผลใช้บังคับในช่วงกลางปี 2562 โดยความตกลง AHKFTA ที่ฮ่องกง เมียนมา สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม แจ้งความพร้อมใช้ความตกลงแล้ว และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ขณะที่ความตกลง AHKIA มีฮ่องกง สปป.ลาว เมียนมา สิงคโปร์ และไทย แจ้งความพร้อมใช้ความตกลงแล้วซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 17 มิถุนายน 2562
นางอรมน กล่าวเสริมว่า ความตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย โดยด้านการค้าสินค้า ฮ่องกงจะได้ประโยชน์จากการที่อาเซียนลดภาษีศุลกากรให้สินค้านำเข้าจากฮ่องกงในอัตราภาษีที่ต่ำลง ในขณะที่อาเซียนจะได้ประโยชน์จากการที่ฮ่องกงตกลงว่าในอนาคตจะไม่ขึ้นภาษีสินค้า ซึ่งปัจจุบันฮ่องกงเก็บภาษีอัตราร้อยละ 0 ทุกรายการภายใต้ AHKFTA ส่วนด้านการค้าบริการ ฮ่องกงจะเปิดตลาดภาคบริการให้อาเซียนมากกว่าที่ผูกพันภายใต้ WTO โดยเฉพาะในการเปิดตลาดการค้าบริการเพิ่มเติมในสาขาบริการด้านการผลิตเนื้อหารายการแก่ผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ที่ไทยเรียกร้อง ซึ่งไทยสามารถถือหุ้นร้อยละ 100 แบบไม่มีเงื่อนไข ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาดังกล่าวสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจได้อย่างครบวงจรในฮ่องกง และด้านการลงทุน ความตกลง AHKIA จะให้การคุ้มครองการลงทุนหลังจากที่ได้เข้ามาจัดตั้งธุรกิจรวมถึงจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนของอาเซียนและฮ่องกง โดยจะมีกระบวนการยื่นขออนุมัติการลงทุนที่สะดวกขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไทยได้รับความสะดวกในการดำเนินธุรกิจและการเข้าถึงข้อมูลด้านกฎระเบียบของฮ่องกงมากขึ้น และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนฮ่องกงที่มาลงทุนในไทยและนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในฮ่องกงอีกด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้จัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับความตกลง AHKFTA และ AHKIA เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจกับฮ่องกงแล้ว ทำให้มั่นใจว่า เมื่อความตกลงระหว่างอาเซียนและฮ่องกง ทั้ง 2 ฉบับ มีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้การค้าระหว่างไทยกับฮ่องกงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563
ฮ่องกงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางการค้าและมีบทบาทสำคัญในแผนพัฒนากวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area: GBA) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ภายใต้ข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ของจีน ขณะเดียวกัน สำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย (HKETO) จะช่วยเสริมบทบาทนำของไทยในการเป็นประตูการค้าและการลงทุนของอาเซียน โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฮ่องกงให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย ในปี 2561 การค้าระหว่างไทยกับฮ่องกง มีมูลค่า 15,473.24 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ในช่วงเวลาเดียวกัน ร้อยละ 1.74 สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปฮ่องกง ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าว ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ส่วนสินค้านำเข้าจากฮ่องกง ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ อัญมณีและเครื่องประดับ ผ้าผืน เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์และเสื้อผ้าสำเร็จรูป สำหรับด้านการลงทุน ในปี 2561 นักลงทุนฮ่องกงได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI เป็นอันดับที่ 5จำนวน 44 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 20,321 ล้านบาท
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
8 พฤษภาคม 2562
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ