กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนไทย-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 14 มุ่งหารือประเด็นสำคัญ อาทิ ความเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก เบร็กซิท และความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าจะเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนไทย-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 14 ในวันที่ 11 มิถุนายน 2562 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมซึ่งเป็นการประชุมประจำปีเพื่อหารือส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยและสหภาพยุโรป และแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าการลงทุนระหว่างกันสำหรับการประชุมครั้งนี้จะหารือในประเด็นสำคัญ เช่น การแลกเปลี่ยนความเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากสหภาพยุโรป (เบร็กซิท) การปฏิรูปการทำงานขององค์การการค้าโลก (WTO) ความเป็นไปได้ในการรื้อฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป พัฒนาการด้านกฎระเบียบและมาตรการทางการค้าของทั้งสองฝ่ายในรอบปีที่ผ่านมา และการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่เกิดจากการออกมาตรการหรือกฎระเบียบทางการค้าใหม่ๆ เป็นต้น
นางอรมน เสริมว่า เนื่องจากขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และสหภาพยุโรปเองก็อยู่ระหว่างการเลือกตั้งรัฐสภาชุดใหม่เช่นกัน ดังนั้นในการประชุมคณะทำงานครั้งนี้ จะยังไม่หารือในรายละเอียดของเอฟทีเอ แต่จะเป็นเวทีที่ทั้งสองฝ่ายร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการประเมินหรือพิจารณาตัดสินใจเรื่องนี้ในอนาคต
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับ 3 ของไทย ในปี 2561 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 47,271.87 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 9.4ของการค้าไทยกับโลก ขยายตัวร้อยละ 6.51 จากปี 2560 เป็นการส่งออกจากไทยไปสหภาพยุโรป 25,014.13 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากสหภาพยุโรป 22,257.74 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.15 และ 8.07 จากปี 2560 ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปสหภาพยุโรป เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ไก่แปรรูป และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากสหภาพยุโรป เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องเพชรพลอย เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
10 พฤษภาคม 2562
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ