‘วีรศักดิ์’ เตรียมลงพื้นที่อุบลฯ ช่วยเกษตรกรอีสานใต้ ใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดต่างประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 13, 2019 13:47 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำทีมกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรอีสานใต้ที่จังหวัดอุบลราชธานี แนะโอกาสส่งออกสินค้าเกษตรไทย ใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ พร้อมเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กประตูการค้าไทยเชื่อมโยงอินโดจีน

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้มอบนโยบายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ และผู้ประกอบการทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้นการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ส่งออกสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก โดยในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 จะนำคณะลงพื้นที่พบปะเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อยจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมเป็นประธานเปิดงานสัมมนาโครงการ “การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” ครั้งที่ 1 ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ เรื่องตลาดการค้าเสรีและการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างแต้มต่อทางการค้า

นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ จะมีการเสวนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “ชี้ช่องรวยรุกตลาดส่งออกสินค้าเกษตรด้วยเอฟทีเอ” และ “ทำอย่างไรให้ส่งออกสินค้าเกษตรในตลาดการค้าเสรี” ให้กับเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน กว่า 100 คน ในพื้นที่อีสานใต้ ครอบคลุมจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และยโสธร โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาดมาวิเคราะห์สินค้า และแนะนำตลาดส่งออกที่เหมาะสมให้ด้วย นอกจากนี้ จะใช้โอกาสนี้เยี่ยมชมการค้าที่จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กเชื่อมโยงตลาดอินโดจีน พร้อมกับพบวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงโคขุนสมุนไพรดอนมดแดง แนะช่องทางการจำหน่าย และแนวทางการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล

นายวีรศักดิ์ แสดงความมั่นใจว่าการลงพื้นที่และการสัมมนาฯ ครั้งนี้ จะทำให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย สามารถพัฒนาและยกระดับสินค้าเกษตรของตนให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น ขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศ และใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ โดยในปี 2563 ได้มอบหมายให้กรมฯ เดินหน้าผนึกกำลังกับสภาเกษตรกรฯ ดำเนินโครงการ “เพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี” ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ อีก 5 ครั้ง ได้แก่ บุรีรัมย์ นครสวรรค์ สงขลา ระยอง และอุตรดิตถ์ โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเกษตรเพื่อสุขภาพและปลอดภัย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ สอดรับกับนโยบายของ รมช.พาณิชย์ ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอในการผลักดันสินค้าเกษตร และเกษตรแปรรูปจากทุกภูมิภาคสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ เพื่อให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อยของไทยมีรายได้ที่มั่นคง ทั้งนี้ ภาคอีสานตอนล่างเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทย และการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอจะช่วยให้เกษตรกรขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศได้มากขึ้นด้วย

ปัจจุบัน ไทยจัดทำเอฟทีเอแล้ว 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง โดยในช่วงที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับประเทศคู่เอฟทีเอมีการเติบโตเพิ่มขึ้น สำหรับในปี 2561 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปตลาดโลก มูลค่ากว่า 41,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกไปประเทศคู่ค้าเอฟทีเอ มูลค่า 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 54 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญ ได้แก่ อาเซียน จีน และญี่ปุ่น โดยสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ คือ อาหารแปรรูป ข้าว ยางพารา น้ำตาล และผลไม้

กระทรวงพาณิชย์

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

10 ธันวาคม 2562?????

ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ