กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กางตัวเลขส่งออกสินค้าไก่ พบเอฟทีเอมีส่วนดันให้ไทยเป็นประเทศส่งออกสินค้าไก่อันดับ 3 ของโลก มูลค่าส่งออก 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2562 โตร้อยละ 8 ตลาดจีนขยายตัวมากสุดร้อยละ 290 กรมฯ พร้อมเดินหน้าผลักดันการเจรจาเอฟทีเอกรอบต่างๆ ต่อเนื่อง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การส่งออกของไทยในช่วง 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) ของปี 2562 พบว่าเอฟทีเอเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไก่ของไทยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถส่งออกสินค้าไก่สู่ตลาดโลกมูลค่า 3,116 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วง 11 เดือนแรกของปี 2561 ร้อยละ 8.2 โดยเป็นการส่งออกไปยังประเทศคู่เอฟทีเอ 2,237 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 72 ของการส่งออกสินค้าไก่ของไทยทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 9 ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัว อาทิ จีน ขยายตัวร้อยละ 290 มูลค่าส่งออก 190 ล้านเหรียญสหรัฐ เกาหลีใต้ ขยายตัวร้อยละ 41 มูลค่าส่งออก 147 ล้านเหรียญสหรัฐ ฮ่องกง ขยายตัวร้อยละ 5 มูลค่าส่งออก 59 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ญี่ปุ่น ขยายตัวร้อยละ 3 มีมูลค่าส่งออก 1,636 ล้านเหรียญสหรัฐ มีไก่แปรรูป และไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง เป็นสินค้าส่งออกดาวเด่น ซึ่งไทยเป็นผู้ส่งออกไก่แปรรูปอันดับ 1 ของโลกมากว่า 15 ปี และในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 ไทยส่งออกไก่แปรรูป 2,392 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 2561 ถึงร้อยละ 7
นางอรมน เสริมว่า ปัจจัยที่ทำให้สินค้าไก่ของไทยเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปที่ทันสมัย ระบบฟาร์มมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมป้องกันการแพร่กระจายโรคระบาดได้ดี รวมทั้งสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดได้ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีโรคอหิวาห์หมูระบาดในต่างประเทศ (จีน เวียดนาม) ทำให้ประเทศผู้บริโภคในต่างประเทศหันมานำเข้าและบริโภคสินค้าไก่ของไทยแทน นอกจากนี้ ความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ยังถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความได้เปรียบและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้สินค้าไก่ของไทยในประเทศคู่ค้า ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไก่ของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภายใต้ความตกลงการค้าเสรีของไทย 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ มีประเทศคู่เอฟทีเอที่ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไก่ทุกรายการของไทยแล้ว 12 ประเทศ ได้แก่ จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เมียนมา บรูไน ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาวและฮ่องกง ส่วนอีก 6 ประเทศที่เหลือ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ชิลี เปรู และเวียดนาม ได้ลดเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไก่บางส่วน และคงการเก็บภาษีนำเข้าในบางรายการสินค้า สำหรับสหภาพยุโรป แม้ปัจจุบันยังไม่มีเอฟทีเอกับไทย แต่สหภาพยุโรปได้จัดสรรปริมาณโควตานำเข้าสินค้าไก่ให้ไทยเป็นกรณีพิเศษ ทำให้สินค้าไก่ของไทยที่ส่งไปสหภาพยุโรปภายใต้โควต้าจะเสียภาษีในอัตราที่ต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้ กรมฯ พร้อมเดินหน้าผลักดันให้ประเทศคู่ค้าเปิดตลาดสินค้าไก่ให้ไทยเพิ่มเติมผ่านการทบทวนเอฟทีเอที่มีอยู่ในปัจจุบัน หาข้อสรุปเอฟทีเอที่อยู่ระหว่างการเจรจา รวมถึงการเปิดเจรจาเอฟทีเอใหม่ๆ อาทิ สหราชอาณาจักร สมาคมการค้าเสรียุโรป (เอฟต้า) รวมถึงสหภาพยุโรปที่เป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสินค้าไก่ที่สำคัญของไทย
หากดูเป็นรายตลาดพบว่า จากปีที่ความตกลงเอฟทีเอแต่ละฉบับมีผลใช้บังคับจนถึงปี 2561 มูลค่าการส่งออกสินค้าไก่ของไทยไปประเทศคู่เอฟทีเอขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด เช่น ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 403 อาเซียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3,064 จีนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10,417 และเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 524 เป็นต้น สอดคล้องกับสถิติปี 2561 ที่สินค้าไก่เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยขอใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอในการส่งออกมากเป็นอันดับต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
6 มกราคม 2563
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ