ไทย-ตุรกี เดินหน้าคุยเอฟทีเอผ่านระบบทางไกล ตั้งเป้าสรุปผลในปี 64

ข่าวเศรษฐกิจ Friday May 15, 2020 13:19 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ไทย-ตุรกี หารือการจัดทำเอฟทีเอผ่านระบบทางไกล หลังทุกประเทศจำกัดการเดินทางจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เร่งปรับปรุงข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้าที่ศักยภาพส่งออก พร้อมยกร่างข้อบทความตกลงที่คงค้าง อาทิ กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรการเยียวยาทางการค้า ตั้งเป้าสรุปผลให้ได้ในปี 2564

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมประชุมทางไกลกับนางบาฮัร กึซเลอ รองอธิบดีกรมความตกลงระหว่างประเทศและกิจการสหภาพยุโรป หัวหน้าคณะผู้แทนตุรกี ในการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย – ตุรกี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อหารือเรื่องการปรับแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับตุรกี หลังจากก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนไทยไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมการประชุมเจรจาฯ รอบที่ 7 ซึ่งตุรกีกำหนดจัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นางอรมน กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะปรับแผนการเจรจาเอฟทีเอเป็นการประชุมผ่านระบบทางไกล เพื่อยกร่างข้อบทความตกลงที่ยังค้างอยู่ 11 ข้อบท เช่น กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช มาตรการเยียวยาทางการค้า เป็นต้น เพื่อให้การเจรจาคืบหน้าต่อไปได้ในช่วงที่ทุกประเทศจำกัดการเดินทางและรักษาระยะห่างทางสังคมจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนี้ การปรับแผนดังกล่าวอาจส่งผลต่อการดำเนินการเจรจา ที่ประชุมจึงตกลงขยายระยะเวลาสรุปผลการเจรจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2563 เป็นปี 2564 นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ขอให้แต่ละฝ่ายพิจารณาปรับปรุงข้อเสนอการเปิดตลาดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มีศักยภาพส่งออก เพื่อตอบสนองข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่ายมากขึ้น และเพื่อให้การลดหรือยกเลิกภาษีส่งผลให้มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ ตุรกีเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ เนื่องจากไทยสามารถใช้ตุรกีเป็นประตูการค้าไปสู่ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลางได้ นอกจากนี้ ยังเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคตะวันออกกลาง รองจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ โดยในปี 2562 การค้าระหว่างไทยกับตุรกี มีมูลค่า 1,487 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการส่งออกจากไทยไปตุรกี มูลค่า 886 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญ เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา เครื่องปรับอากาศ เส้นใยประดิษฐ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น และเป็นการนำเข้าจากตุรกี มูลค่า 601 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสินค้านำเข้าที่สำคัญ เช่น น้ำมันดิบ รถไฟ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น

14 พฤษภาคม 2563

ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ