กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำทัพกูรูทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคเกษตรและนักวิชาการ ลงใต้ร่วมสัมมนาประชาพิจารณ์ ‘ก้าวต่อไปของไทย หลังปิดดีลอาร์เซ็ป’ ที่จังหวัดสงขลา ชี้ช่องใช้ประโยชน์จากความตกลงอาร์เซ็ป พร้อมแนะแนวทางเตรียมตัวรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมจัดงานสัมมนาประชาพิจารณ์ “ก้าวต่อไปของไทย หลังปิดดีลอาร์เซ็ป” ในวันที่ 17 กันยายน 2563 ณ โรงแรมที อาร์ ร็อคฮิล อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ อาร์เซ็ป (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) รวมถึงการเตรียมตัวใช้ประโยชน์จากความตกลงและการปรับตัวจากผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น เพื่อรองรับการลงนามความตกลงอาร์เซ็ปที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้
นางอรมน กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ จะมีการบรรยายหัวข้อ “รู้รอบข้อตกลง RCEP” โดยหัวหน้าผู้แทนไทยในการเจรจาอาร์เซ็ป นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งการเสวนาหัวข้อ “RCEP เชื่อมไทยสู่โลก สู้โควิด” โดยผู้แทนจากภาครัฐ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการในจังหวัดสงขลา และการเสวนาหัวข้อ “โอกาสการค้าการลงทุนใน RCEP : ทำอย่างไรให้ปัง!” เพื่อชี้ช่องทางการบุกตลาดอาร์เซ็ป โดยกูรูจากภาครัฐ เอกชน และกลุ่มสหกรณ์ พร้อม รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินรายการ และจะมีการถ่ายทอดสดผ่าน Facebook กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ตลอดงาน
สำหรับความตกลงอาร์เซ็ปประกอบด้วยสมาชิก 16 ประเทศ (สมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย) ซึ่งเป็นการรวมฐานการผลิตที่สำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์และชิ้นส่วน สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รวมทั้งขั้นตอนการวิจัยพัฒนาออกแบบ การผลิตอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตลอดจนการกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภค ทั้งนี้ ความตกลงอาร์เซ็ปจะช่วยให้การผลิตสินค้าและการบริการของผู้ประกอบการไทย ทั้งเกษตรกร SMEs ไปจนถึงผู้ประกอบการขนาดใหญ่สามารถเชื่อมโยงเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่าของโลก
ทั้งนี้ ความตกลงอาร์เซ็ปเป็นความตกลงการค้าเสรี หรือ FTA ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันเกือบ 3,600 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 48.1 ของประชากรโลก โดยในปี 2562 ประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป 16 ประเทศ มีมูลค่า GDP กว่า 28.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 32.7 ของ GDP โลก และมีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 29.5 ของมูลค่าการค้าโลก ทั้งนี้ การค้าและการลงทุนของไทยกว่าครึ่งพึ่งพาตลาดของสมาชิกอาร์เซ็ป โดยไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปมีมูลค่าการค้ารวม 2.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 59.5 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย และไทยมีมูลค่าการส่งออกกว่า 1.4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 57 ของการส่งออกของไทยไปโลก
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
15 กันยายน 2563
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ