กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมนำทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เชียงใหม่ พบเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟ เน้นการใช้ประโยชน์จากกาแฟอย่างครบวงจรและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนะสร้างผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพให้ได้มาตรฐาน ใช้เอฟทีเอขยายตลาดกาแฟไทยต่างประเทศ พร้อมรับฟังความเห็นแนวทางจัดตั้งกองทุนเอฟทีเอด้วย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ เตรียมลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินหน้าโครงการ “การเพิ่มศักยภาพกาแฟไทยในยุคการค้าเสรี” ระหว่างวันที่ 24–25 กันยายน 2563 เพื่อสำรวจศักยภาพศูนย์การฝึกอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการกาแฟครบวงจร ณ HILLKOFF Learning Space และศูนย์การเรียนรู้กาแฟครบวงจร กาแฟชาวไทยภูเขา อำเภอแม่แตง พร้อมจัดเสวนาหัวข้อ “การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของกาแฟไทย” ณ ศูนย์วิจัยสาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเห็นกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟในพื้นที่
นางอรมน กล่าวว่า กรมฯ เตรียมนำผู้เชี่ยวชาญภาครัฐ สมาคมกาแฟไทย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าพบผู้บริหาร HILLKOFF Learning Space ซึ่งเป็นศูนย์การฝึกอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการกาแฟครบวงจรของเอกชน และ สำรวจศูนย์การเรียนรู้กาแฟครบวงจร กาแฟชาวไทยภูเขา เพื่อรับฟังแนวคิด Circular Eco Coffee model ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากกาแฟอย่างครบวงจร และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการถ่ายทอดประสบการณ์ความรู้ระหว่างกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟไทย
นอกจากนี้ จะจัดเสวนาหัวข้อ “การเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของกาแฟไทย” ณ ศูนย์วิจัยสาธิตและฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการค้าต่างประเทศ สมาคมกาแฟไทย และผู้ประกอบการท้องถิ่น ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเห็นกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการกาแฟไทย เพื่อให้ทราบถึงความท้าทายใหม่ๆ และการเตรียมพร้อมรับมือ รวมถึงเทคนิคการแสวงหาโอกาสการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ พร้อมทั้งจะเปิดรับฟังความเห็นถึงแนวทางการจัดตั้งกองทุนเอฟทีเออีกด้วย
“ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กรมฯ ให้ความสำคัญกับสินค้ากาแฟอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความพร้อมตลอดห่วงโซ่การผลิตในอุตสาหกรรมกาแฟทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ ซึ่งเชื่อมั่นว่า การพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กาแฟรูปแบบใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพให้มีมาตรฐาน จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาดพรีเมียมของต่างประเทศได้ โดยมีเอฟทีเอรองรับและสร้างแต้มต่อให้สามารถเข้าถึงตลาดได้โดยมีต้นทุนที่ต่ำลง” นางอรมนเสริม
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อลงทะเบียนเข้าร่วมการสัมมนาได้ที่เบอร์ 0 2507 7720 และสามารถค้นหาข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ และการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ได้ทาง www.dtn.go.th หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูล FTA (FTA Center) โทร 0 2507 7555
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
23 กันยายน 2563
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ