กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยสัญญาณบวก ส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปคู่คู่เอฟทีเอฟื้นตัวต่อเนื่อง ชี้! ข้าว-ยางพารา-ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีแนวโน้มขยายตัว แนะช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ผู้ประกอบการต้องคุมเข้มคุณภาพมาตรฐานสินค้า เน้นปลอดภัยไร้สารปนเปื้อนและเชื้อโรค หนุนใช้สิทธิ์ FTA ส่งออกตลาดคู่เอฟทีเอเต็มที่
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว แต่พบว่าการส่งออกสินค้าเกษตร (กสิกรรม ประมง และปศุสัตว์ ไม่รวมอุตสาหกรรมการเกษตร) ไปตลาดโลกส่งสัญญาณขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกไปประเทศที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง โดยในช่วงเดือน ม.ค. ? พ.ย. 2563 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศคู่เอฟทีเอ รวม 13,519 ล้านเหรียญสหรัฐ (70% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมดของไทย) ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่ 1% ตลาดคู่ FTA ที่การส่งออกของไทยขยายตัว เช่น กัมพูชา (+206%) สิงคโปร์ (+21%) บรูไนฯ (+15%) จีน (+9%) ฮ่องกง (+21%) ออสเตรเลีย (+5%) และนิวซีแลนด์ (+11%) เป็นต้น
นางอรมน เพิ่มเติมว่า เมื่อพิจารณาสถิติรายเดือนสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการสินค้าเกษตรของไทยมีทิศทางเพิ่มขึ้น เฉพาะเดือน พ.ย. 2563 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปประเทศคู่เอฟทีเอมีมูลค่ารวม 1,228 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12% จากเดือน ต.ค. ปีเดียวกัน โดยตลาดคู่เอฟทีเอขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด อาทิ จีน (+18%) ญี่ปุ่น (+9%) อาเซียน (+11%) เกาหลีใต้ (+5%) อินเดีย (+16%) นิวซีแลนด์ (+1%) เปรู (+223%) และชิลี (+344%) นอกจากนี้ ยังพบว่าการส่งออกสินค้าเกษตรสำคัญของไทยมีแนวโน้มที่ดี อาทิ ข้าว ยางพารา และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง โดยตัวเลขการส่งออกในเดือน พ.ย. 63 เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค. 63 ได้แก่ ข้าว ส่งออก 422 ล้านเหรียญสหรัฐ (+53%) ยางพารา ส่งออก 400 ล้านเหรียญสหรัฐ (+20%) และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ส่งออก 198 ล้านเหรียญสหรัฐ (+ 2%) ซึ่งข้าว ยางพารา และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ถือเป็นสินค้าเกษตรที่ขอใช้สิทธิ์ส่งออกด้วยเอฟทีเอในอันดับต้น
สำหรับสินค้าข้าว ปัจจุบันประเทศคู่เอฟทีเอ 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด? ฮ?องกง สิงคโปร? บรูไนฯ และกัมพูชา ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค?ข้าวจากไทยแล?ว ส่วนอีก 8 ประเทศ ได?แก? จีน ชิลี สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟ?ลิปป?นส? ได?ทยอยลดภาษีศุลกากรให?กับสินค?ข?วจากไทยแล้ว ส่วนยางพารา 16 ประเทศคู่เอฟทีเอ (อาเซียน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง) ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้ายางพาราทุกรายการให้ไทยแล้ว ขณะที่ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง คู่เอฟทีเอ 15 ประเทศ (อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง) ได้ยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากไทยทุกรายการแล้ว ทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีโอกาสในตลาดคู่เอฟทีเอมากขึ้น
?แนวโน้มการส่งออกสินค้าเกษตรของไทยมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของตลาดส่งออกสำคัญบางประเทศเริ่มฟื้นตัว จึงอยากให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอให้เต็มที่ และควรให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าอย่างเข้มงวด เน้นความปลอดภัยไร้การปนเปื้อนของเชื้อโรค โดยเฉพาะช่วงไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคสินค้าไทย รวมทั้งปรับการผลิตให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เน้นสินค้าที่เก็บรักษาได้นาน ประกอบอาหารง่ายและสะดวก? นางอรมนเสริม
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
31 ธันวาคม 2563
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ