กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือเอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศไทย กระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน พร้อมเร่งรัดเจรจา FTA ไทย-ปากีสถาน ให้สรุปผลโดยเร็ว ปูทางให้ภาคเอกชนไทย-ปากีสถาน ใช้สิทธิประโยชน์ขยายตลาดส่งออก ปลื้ม! 5 ปี การค้าสองฝ่ายโตเฉลี่ยกว่า 12% ต่อปี
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมาได้หารือกับ นายอะศิม อิฟติคัร อะห์หมัด (H.E. Mr. Asim Iftikhar Ahmad) เอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศไทย ผ่านระบบประชุมทางไกล เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นว่าควรเร่งการเจรจา FTA ไทย-ปากีสถาน ที่เริ่มเจรจากันมาตั้งแต่ปี 2558 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ภาคเอกชนของไทยและปากีสถานสามารถใช้ประโยชน์จากการเปิดตลาด ลดและยกเลิกภาษีระหว่างกันได้ โดยเฉพาะหากความตกลง RCEP มีผลใช้บังคับ จะช่วยหนุนให้สินค้าศักยภาพของทั้งสองประเทศ มีโอกาสขยายตลาดในภูมิภาคมากขึ้น
นางอรมน กล่าวว่า ไทยและปากีสถานเริ่มการเจรจาจัดทำความตกลง FTA ไทย-ปากีสถาน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2558 โดยที่ผ่านมามีการจัดประชุมเจรจาฯ ไปแล้ว 9 ครั้ง และสามารถเจรจา รายละเอียดในส่วนของข้อบทความตกลงได้เกือบหมดแล้ว คงเหลือการเจรจาเปิดตลาดสินค้า ซึ่งทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อเสนอ
ทั้งนี้ ปากีสถานเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีประชากรกว่า 200 ล้านคน เป็นอันดับ 6 ของโลก โดยประชากรกว่า 30 ล้านคน เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และมีทัศนคติที่ดีต่อสินค้าไทย จึงถือเป็นตลาดศักยภาพของไทย การค้าระหว่างไทยกับปากีสถาน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2558-2562) มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 12.7% ต่อปีโดยมีมูลค่าการค้า 1,374.48 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563 ปากีสถานเป็นคู่ค้าอันดับ 35 ของไทย และอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้รองจากอินเดีย
สำหรับในช่วงเดือน ม.ค. - พ.ย. 2563 การค้าระหว่างไทยและปากีสถานมีมูลค่า 969.06 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกมูลค่า 854.52 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ เส้นใยประดิษฐ์ เม็ดพลาสติก เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เป็นต้น และไทยนำเข้ามูลค่า 114.54 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องมือเครื่องใช้ทางการแพทย์ และแร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ เป็นต้น
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
8 มกราคม 2564
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ