รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หารือเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย สานต่อความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมขอให้แคนาดานำเข้าสินค้าเกษตรไทย ทั้งข้าว ผลไม้สดและผลไม้แช่แข็ง มั่นใจไทยผลิตและส่งออกสินค้าได้ต่อเนื่อง แม้ในช่วงโควิด-19 หนุนอาเซียนเจรจาเปิด FTA อาเซียน-แคนาดา ขยายช่องทางการค้าเจาะตลาดอเมริกาเหนือ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือกับนางซาราห์ เทย์เลอร์ เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ณ กระทรวงพาณิชย์ ว่าเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายได้พบหารือกัน ภายหลังจากที่เอกอัครราชทูตเข้ารับตำแหน่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 อีกทั้ง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 เป็นวันครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-แคนาดา ซึ่งที่ผ่านมาการค้าและการลงทุนระหว่างกันมีพัฒนาการที่ดีและขยายตัวต่อเนื่อง โดยไทยและแคนาดายังเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) และกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) อีกด้วย
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้ ได้ขอให้แคนาดาสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทย อาทิ ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้องเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลแปรรูป ผลไม้สดและผลไม้แช่แข็ง อาทิ ทุเรียน ลำไย มังคุด เงาะ ลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าว ลองกอง และมะขาม ไปตลาดแคนาดา พร้อมให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิตของไทยที่สามารถส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงสถานการณ์ของโควิด-19 นอกจากนี้ ไทยให้ความมั่นใจถึงคุณภาพสินค้าไทย โดยตอนนี้ ภาครัฐและเอกชนร่วมทำหนังสือรับรอง COVID free certificate เพื่อเป็นเอกสารรับรองการปลอดเชื้อโควิด สำหรับใช้โฆษณาอาหารไทยกับตลาดโลก
นายจุรินทร์ เสริมว่า ได้ขอให้แคนาดาสนับสนุนอาหารไทย ส่งเสริมให้รู้จักอาหารไทยมากยิ่งขึ้น ทั้งรสชาติ คุณภาพที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เน้นย้ำทูตพาณิชย์ติดตามคุณภาพและมาตรฐานของร้านอาหารไทยในแคนาดา รวมถึงสนับสนุนการบรรจุหลักสูตรอาหารในโรงสอนทำอาหารในแคนาดา
นายจุรินทร์ เพิ่มเติมว่า ทั้งสองฝ่ายยังเห็นว่าการจัดทำเอฟทีเอ อาเซียน-แคนาดา จะเป็นประโยชน์ในการขยายการค้าและการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งช่วยยกระดับการแข่งขันของประเทศอาเซียนให้เข้าสู่ตลาดแคนาดาได้ ทั้งนี้ สำหรับการตัดสินใจทำเอฟทีเอ อาเซียน-แคนาดา อาเซียนทั้ง 10 ประเทศ จะต้องเห็นพ้องร่วมกัน พร้อมแนะให้แคนาดาทำงานใกล้ชิดกับประเทศอาเซียนอื่นด้วย นอกจากนี้ แคนาดาพร้อมให้การสนับสนุนไทยหากจะเข้าร่วมความตกลง CPTPP โดยมองว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ในปี 2563 การค้ารวมระหว่างไทยกับแคนาดา มีมูลค่า 2,308.49 ล้านเหรียญสหรัฐ (69,255 ล้านบาท) โดยไทยส่งออกไปแคนาดา มูลค่า 1,540.97 ล้านเหรียญสหรัฐ (46,229 ล้านบาท) และนำเข้าจากแคนาดา มูลค่า 767.52 ล้านเหรียญสหรัฐ (23,026 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อน เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญจากแคนาดา เช่น พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เป็นต้น
กระทรวงพาณิชย์
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
11 มีนาคม 2564
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ