?จุรินทร์? เผย ทูตเวียดนามหนุน CL วัคซีน เปิดโอกาสผลิต-กระจายวัคซีนไปทั่วโลก ปลื้ม! การค้าสองฝ่ายโต 20% แม้เจอมรสุมโควิด เตรียมฉลอง 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยเวียดนามหนุน CL วัคซีน เปิดโอกาสผลิต-กระจายวัคซีนไปทั่วโลก ผลักดันแก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออกยา-น้ำตาล-สุกรของไทย ปลื้ม! การค้าสองฝ่าย 4 เดือนแรกโต 20% เตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ได้ให้การต้อนรับนายฟาน จี๊ ทัญ (H.E. Mr. Phan Chi Thanh) เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามประจำประเทศไทย ณ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหารือแนวทางเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ และการค้าในยุคโควิด-19 พร้อมผลักดันแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่งออกสินค้าไทย และเตรียมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างไทยกับเวียดนาม ใน 4 เดือนแรกของปี 2564 (ม.ค. ? เม.ย.) ขยายตัวถึง 20% แม้ในปี 2563 การค้าสองฝ่ายจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มูลค่า 600,000 ล้านบาท ทำได้ 517,524 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์โควิด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นที่ 1 ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-เวียดนาม (Joint Trade Committee: JTC) ครั้งที่ 4 โดยที่ประชุมได้สรุปให้จัดการประชุมในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ประเด็นที่ 2 เวียดนามได้สนับสนุนความเห็นของไทยในการประชุมเอเปคที่ผ่านมา ในประเด็นที่ไทยสนับสนุนให้ประเทศต่างๆ สามารถใช้สิทธิพิเศษผลิตวัคซีนได้ (CL) เป็นการชั่วคราว ซึ่งมาตรการนี้เราสามารถที่จะช่วยผลิตวัคซีนและส่งออกไปยังกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนและเวียดนามได้ด้วย
นายจุรินทร์ เสริมว่า ไทยยังได้หารือกับเวียดนามใน 5 ประเด็นสำคัญ คือ เรื่องที่ 1 ขอให้เวียดนามช่วยประชาสัมพันธ์งานจับคู่ธุรกิจออนไลน์ระหว่างไทยกับเวียดนาม ที่ไทยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ? 5 สิงหาคมนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน เรื่องที่ 2 ขอให้เวียดนามช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าที่ต้องผ่านเวียดนาม โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ที่มีช่วงเวลาจำกัด ซึ่งบางด่านประสบปัญหาเรื่องความล่าช้า เช่น ด่านฝั่งเวียดนาม คือ ด่านหูหงิ และด่านฝั่งจีน คือด่านโหย่วอี้กว่าน เป็นต้น เรื่องที่ 3 ขอให้เวียดนามผ่อนคลายข้อกำหนดในการขอขึ้นทะเบียนยาซึ่งมีความซับซ้อน ให้เป็นไปตามมาตรฐานอาเซียน หรือ WHO เรื่องที่ 4 ขอให้เวียดนามพิจารณาไต่สวนมาตรการเก็บภาษีการทุ่มตลาดและการอุดหนุนสินค้าน้ำตาลจากไทย โดยให้ยึดหลักการพิจารณาเป็นไปตามกรอบ WTO และเรื่องที่ 5 การส่งออกสุกรไปเวียดนาม ไทยได้แจ้งว่า ไทยเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสุกรก่อนส่งออกแล้ว จึงขอให้เวียดนามอำนวยความสะดวกในการนำเข้าสุกรจากไทย เพื่อให้สุกรคุณภาพจากไทยสามารถส่งออกไปยังเวียดนามได้โดยสะดวก
ในปี 2563 เวียดนามเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในโลก และอันดับที่ 3 ของไทยในอาเซียน รองจากมาเลเซีย และสิงคโปร์ การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 16,618.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (517,424.4 ล้านบาท) โดยไทยส่งออกไปยังเวียดนาม 11,163.8 ล้านเหรียญสหรัฐ (346,063.4 ล้านบาท) และนำเข้าจากเวียดนาม 5,454.82 ล้านเหรียญสหรัฐ (171,361.04 ล้านบาท) สำหรับ 4 เดือนแรกของปี 2564 การค้าไทย-เวียดนามมีมูลค่า 6,623.92 ล้านเหรียญสหรัฐ (199,523.29 ล้านบาท) โดยมีอัตราการขยายตัว 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เป็นการส่งออกมูลค่า 4,314.06 ล้านเหรียญสหรัฐ (129,294.27 ล้านบาท) และเป็นการนำเข้ามูลค่า 2,309.86 ล้านเหรียญสหรัฐ (70,229.02 ล้านบาท) สินค้าส่งออกหลักของไทยไปเวียดนาม คือ รถยนต์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากเวียดนาม คือ โทรศัพท์มือถือ
กระทรวงพาณิชย์ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
7 มิถุนายน 2564
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ