อาเซียนขอให้อินเดียเร่งให้ความเห็นชอบต่อร่างขอบเขตการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าโดยเร็ว ก่อนชงรัฐมนตรีอาเซียน-อินเดีย ประกาศผลการเจรจาทบทวน ก.ย.นี้ พร้อมโวยการบังคับใช้กฎศุลกากรว่าด้วยกฎถิ่นกำเนิดสินค้าใหม่ของอินเดียเป็นการเพิ่มขั้นตอน และสุ่มเสี่ยงข้อมูลความลับทางธุรกิจรั่วไหล เตรียมปรับการทำงานสภาธุรกิจอาเซียน-อินเดีย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีฯ เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน ? อินเดีย ครั้งที่ 33 (33rd SEOM ? India Consultations) ผ่านระบบประชุมทางไกล โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเร่งสรุปการจัดทำขอบเขตการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน ? อินเดีย และเรียกร้องให้อินเดียแก้ไขปัญหากฎระเบียบทางศุลกากรในการนำเข้าสินค้าโดยใช้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ความตกลงการค้าเสรี
นายดวงอาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อเดือนกันยายน 2562 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ? อินเดีย มีมติให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน ? อินเดีย (ASEAN ? India Trade in Goods Agreement: AITIGA) ให้มีความทันสมัยและสะดวกต่อการค้าระหว่างกัน ซึ่งที่ผ่านมา อาเซียนได้จัดทำร่างขอบเขตการทบทวนและส่งให้ฝ่ายอินเดียได้พิจารณาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับที่ประชุมครั้งนี้ อาเซียนได้เร่งรัดอินเดียให้ความเห็นต่อเอกสารดังกล่าว โดยอินเดียแจ้งว่า จะสามารถส่งความเห็นให้อาเซียนได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ สองฝ่ายจะพยายามดำเนินการเพื่อให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ? อินเดีย ครั้งที่ 18 เดือนกันยายนนี้ สามารถประกาศการเจรจาทบทวนความตกลง AITIGA อย่างเป็นทางการได้ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบว่า ขณะนี้ ทุกประเทศได้ให้สัตยาบันความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน - อินเดีย (ASEAN ? India Investment Agreement: AIIA) ทำให้ความตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้กับประเทศภาคีทุกประเทศแล้ว
นายดวงอาทิตย์ เพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้ อาเซียนได้หยิบยกปัญหาการบังคับใช้กฎศุลกากรว่าด้วยกฎถิ่นกำเนิดสินค้าใหม่ของอินเดีย (CAROTAR 2020) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 ที่ให้อำนาจศุลกากรอินเดียร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของสินค้านำเข้ามากเกินกว่าที่ตกลงไว้ ซึ่งไทยและประเทศอาเซียนเห็นว่า กฎระเบียบดังกล่าวเป็นการเพิ่มขั้นตอนพิธีการทางศุลกากรและมีความสุ่มเสี่ยงที่ข้อมูลที่ขออาจเป็นข้อมูลทางธุรกิจอีกด้วย อาทิ ค่าแรง กำไร และกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือเรื่องการผลักดันให้สภาธุรกิจอาเซียน ? อินเดีย เร่งจัดหารือระหว่างภาคธุรกิจของอาเซียนและสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย เพื่อหาแนวทางการบริหารสภาธุรกิจอาเซียน ? อินเดีย เพื่อให้สามารถเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างอาเซียนกับอินเดีย
ทั้งนี้ ในปี 2563 การค้าระหว่างอาเซียนกับอินเดียมีมูลค่า 65,589 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า 14.92% เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด ? 19 โดยแบ่งเป็นการส่งออกจากอาเซียนไปอินเดีย มูลค่า 39,410 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากอินเดียมายังอาเซียน มูลค่า 26,178 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะเดียวกันในปี 2563 การค้าระหว่างไทยกับอินเดียมีมูลค่า 9,774 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้า 19.54% แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปอินเดีย มูลค่า 5,489 ล้านเหรียญสหรัฐ และการนำเข้าจากอินเดียมาไทย มูลค่า 4,284 ล้านเหรียญสหรัฐ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
21 มิถุนายน 2564
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ