นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ได้เป็นเจ้าภาพเปิดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 ร่วมกับนายเหวียน ห่ง เซียน (H.E. Mr. Nguyen Hong Dien) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของประเทศเวียดนาม ณ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับท่านรัฐมนตรีเหวียน ห่งเซียน และคณะผู้แทนเวียดนาม เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุม JTC ระดับรัฐมนตรีครั้งแรก นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ หวังว่า จะได้รับความสะดวกสบายตลอดช่วงการเดินทางเยือนไทย และระหว่างการพำนักในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ ไทยได้ใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีต่อการครบรอบ 45 ปีของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับเวียดนามในปี 2564 (ค.ศ. 2021)
นายจุรินทร์ เพิ่มเติมว่า ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทยกับเวียดนามมีพัฒนาการในทิศทางที่เติบโตมากขึ้นอย่างเด่นชัดนับตั้งแต่ทั้งสองฝ่ายมีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ร่วมกันครั้งแรก ในปี 2555 (ค.ศ. 2012) ซึ่งมีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อ เสริมสร้างความร่วมมือในสาขาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การส่งเสริมการค้า การลงทุน การเกษตร การเชื่อมโยงการขนส่ง การธนาคาร และทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงแก้ไข ปัญหาอุปสรรคทางการค้า และการลงทุนระหว่างกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้การประชุม JTC แต่ละครั้งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีตลอดมา
นายจุรินทร์ เสริมว่า การประชุม JTCในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้หารือกันในลักษณะของหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายในการขยายความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้เกิดความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ การเริ่มวาระการเจรจาอื่นๆ มีคณะร่วมการประชุมฝ่ายไทย โดยมีนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิจักร วิเศษน้อย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม
20 เมษายน 2565
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ