ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุม JTC ไทย-ภูฏาน ครั้งที่ 4 เดินหน้าขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน ทั้งด้านเกษตร หัตถกรรม และการท่องเที่ยว และความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า (PTA) ย้ำความเป็นพันธมิตรเพื่อเติบโตร่วมกันในเวทีโลก ด้านภูฏานสนใจดูกระบวนการผลิตสับปะรด GI ของภูเก็ต หวังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรภูฏาน
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ไทย ? ภูฏาน ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 27 ? 28 เมษายนนี้ ณ โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า ภูเก็ต โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการภูฏาน (นายเลียนโพ ล็อกนัท ชาร์มา) H.E.Mr. Lyonpo Loknath Sharma เป็นประธานร่วม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน ตลอดจนตอกย้ำความเป็นพันธมิตรกับไทย เพื่อเติบโตร่วมกันได้อย่างมั่นคงในเวทีการค้าโลก
นางอรมน กล่าวว่า การประชุม JTC ครั้งนี้ จะมีการหารือประเด็นสำคัญ อาทิ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน และการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจด้านต่างๆ อาทิ การเกษตร หัตถกรรม และการท่องเที่ยว การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการที่ภูฏานสนใจ อาทิ การพัฒนาระบบการค้าพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ (E-Commerce) การพัฒนา SME และการถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication: GI) และความเป็นไปได้ต่อการจัดทำความตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า (Preferential Trade Agreement: PTA) ไทย ? ภูฏาน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการค้าสองฝ่ายให้ขยายตัวมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการภูฏาน จะใช้โอกาสนี้ศึกษาดูงานกระบวนการผลิตสับปะรด ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากภูฏานเป็นประเทศเกษตรกรรมและสามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูง อาทิ น้ำผึ้ง หน่อไม้ฝรั่ง และแอปเปิ้ล ซึ่งการขึ้นทะเบียน GI จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรของภูฏาน ทั้งนี้ ภูฏานถือเป็นประเทศที่มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์การสหประชาชาติประกาศให้ภูฏาน หลุดพ้นจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศกำลังพัฒนาในปี 2566
ทั้งนี้ ในปี 2564 ภูฏานเป็นคู่ค้าอันดับที่ 119 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับ 6 ในภูมิภาคเอเชียใต้รองจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ศรีลังกา และมัลดีฟส์ โดยมีมูลค่าการค้ารวม 66.53 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ไทยส่งออกไปภูฏาน มูลค่า 66.49 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผ้าผืน เครื่องนุ่งห่ม ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี และไทยนำเข้าจากภูฏาน มูลค่า 40,000 เหรียญสหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ ใบชาเขียว รูปหล่อขนาดเล็ก แยม และเยลลี่ผลไม้
22 เมษายน 2565
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ