เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ถกแผนพัฒนาโครงการอุตสาหกรรมใหม่ หนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของภูมิภาค ช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตโควิด ทั้งด้านสาธารณสุข อาหาร การเกษตร พลังงาน และอุตสาหกรรมใช้เทคโนโลยีสูง อาทิ วัคซีน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมนัดหารือคู่เจรจา มุ่งอัพเกรด FTA เน้นการค้าดิจิทัล MSMEs และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) ให้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ครั้งที่ 2/53 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ 6-8 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยได้มีการหารือถึงข้อริเริ่มที่จะพัฒนาโครงการอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของภูมิภาคให้แน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของภาคเอกชนเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทาน และเพิ่มการมีส่วนร่วมของอาเซียนในห่วงโซ่มูลค่าโลก โดยมุ่งให้ความสำคัญกับสาขาอุตสาหกรรมที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 และความท้าทายในปัจจุบัน อาทิ สาธารณสุข อาหาร การเกษตร พลังงาน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูง อาทิ วัคซีน และเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยที่ประชุมได้มอบสำนักเลขาธิการอาเซียนศึกษาประเมินแนวทางที่เป็นไปได้ และนำเสนอให้ประเทศสมาชิกพิจารณาต่อไป
นางสาวโชติมา เสริมว่า ที่ประชุมยังได้เตรียมการจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกับคู่เจรจา FTA ของอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อินเดีย และแคนาดา เพื่อมุ่งเพิ่มความร่วมมือและยกระดับความตกลง FTA ที่มีอยู่ให้ลึกซึ้งและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการค้าดิจิทัล MSMEs ห่วงโซ่อุปทาน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สำหรับในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย. 2565) การค้ารวมของไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 41,997.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ในเดือน เม.ย. 2565 ไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 6,094.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 19% สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่แปรรูป ผลไม้กระป๋อง และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 4,777.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 22.7% สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ สินค้าเชื้อเพลิง และสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป
10 มิถุนายน 2565
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ