?สินิตย์? นำทัพกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่กระบี่ พบปะเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสดสตรีคลองท่อมเหนือ ผลิตกาแฟคุณภาพ พรีเมี่ยมระดับประเทศ สามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดในและต่างประเทศ สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า พร้อมหนุนใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างแต้มต่อในตลาดการค้าเสรี
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์จากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สิน
ทางปัญญา ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปกาแฟสดสตรีคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่ผลิตกาแฟคุณภาพระดับประเทศ ผลิตภัณฑ์ได้รับเครื่องหมาย อย. ฮาลาล และ OTOP 5 ดาว อีกทั้งกาแฟกระบี่ยังได้รับเครื่องหมายรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ส่งผลให้จำหน่ายได้ในราคาสูง และมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์พื้นเมือง รวมทั้งพื้นที่ปลูกมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์จากดินภูเขาไฟ และมีสภาพอากาศเหมาะสม
นายสินิตย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ พบว่าวิสาหกิจชุมชนมีความพร้อมในการผลิตสินค้าที่มีศักยภาพ อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ จึงเป็นที่ยอมรับและเป็นที่นิยมมาก และมีความต้องการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งเห็นว่าสามารถพัฒนาต่อยอดและทำให้สินค้ากาแฟกระบี่เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ จึงได้มอบให้กรมเจรจาการค้าระหว่างเทศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยพัฒนาสินค้าและขยายตลาดไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยได้จัดทำ 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ได้ลดหรือยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากไทยแล้ว
?กระทรวงพาณิชย์พร้อมช่วยสนับสนุนเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งให้ความรู้เรื่องการส่งออกและการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มแต้มต่อทางการค้าและสร้างขีดความสามารถในการแข่งในตลาดการค้าเสรี ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น และสามารถจำหน่ายสินค้าในราคาสูงได้? นายสินิตย์เสริม
ทั้งนี้ ในปี 2564 ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟอันดับที่ 38 ของโลก โดยไทยส่งออกสินค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์ไปตลาดโลก มูลค่า 103.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกกาแฟสำเร็จรูปที่สำคัญ ได้แก่ กัมพูชา ญี่ปุ่น สปป.ลาว เมียนมา สหรัฐฯ และแคนาดา ปัจจุบัน 14 ประเทศคู่ FTA (อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ฮ่องกง และชิลี) ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ากาแฟจากไทยทุกรายการแล้ว ยกเว้น 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น (เก็บภาษีกาแฟคั่ว ร้อยละ 10-12) จีน (เก็บภาษีกาแฟไม่ได้คั่วทั้งที่แยกและไม่ได้แยกกาเฟอีน และกาแฟคั่วที่ไม่ได้แยกกาเฟอีน ร้อยละ 5) เปรู (กาแฟคั่วและไม่คั่ว ร้อยละ 6-11) และอินเดีย (กาแฟคั่ว ร้อยละ 100)
22 ธันวาคม 2565
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ