กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบหารือกลุ่มสหกรณ์ เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตนม สับปะรด และทุเรียน หนุนใช้ FTA เปิดตลาดต่างประเทศ หลังคู่ค้าส่วนใหญ่ลดภาษีนำเข้าให้กับไทยแล้ว พร้อมแนะกลยุทธ์การทำตลาด ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ และใช้นวัตกรรมผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 19-21 มีนาคม ที่ผ่านมา เพื่อพบหารือกับกลุ่มสหกรณ์ เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตสินค้าสับปะรด ผลิตภัณฑ์นม และทุเรียน เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายส่งออกไปตลาดโลก และจัดสัมมนา เรื่อง ?การพัฒนาศักยภาพสินค้านม สับปะรด และทุเรียนไทย สู่การค้าเสรี? โดยให้ความรู้เกี่ยวกับ FTA การค้าระหว่างประเทศ กลยุทธ์การทำตลาด พฤติกรรมและแนวโน้มของผู้บริโภครุ่นใหม่ และการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมยกระดับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและมาตรฐาน
นางสาวบุณิกา กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ กรมได้พบหารือกับสหกรณ์โคนม ไทย-เดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการ ?โคนมไทยก้าวไกล ขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA? ของกรม และเป็นสหกรณ์โคนมแห่งที่ 3 สามารถผลิตนมผง ด้วยวิธีการ ?Spray Age? ต่อจากสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น และโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โดยมีศักยภาพการผลิตประมาณ 200 กิโลกรัมต่อวัน และปัจจุบันได้ผลิตนมผงเต็มมันเนยสำหรับใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นม อาทิ นมอัดเม็ด และนมพาสเจอร์ไรส์
นอกจากนี้ กรมยังได้ลงพื้นที่สวนทุเรียน ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ พบว่า ผู้ประกอบการได้พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานทุเรียน โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP ซึ่งมีจุดเด่นในการควบคุมคุณภาพการผลิต โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกับปุ๋ยเคมี การใช้สารชีวภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และสร้างแบรนด์ในนามวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ ผู้ปลูกทุเรียนป่าละอู และทุเรียนหมอนทองป่าละอู
นางสาวบุณิกา เพิ่มเติมว่า สำหรับการลงพื้นที่โรงงานคัดบรรจุสับปะรดผลสด ณ ศูนย์การถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตภาพและมูลค่าพืชไร่ชุมชน (สับปะรด) ซึ่งเป็นโรงงานคัดบรรจุสับปะรดผลสดให้กับบริษัทส่งออก และเป็นโรงงานที่ทันสมัยแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีเครื่องจักรและกระบวนการผลิตมาตรฐานครบวงจร รวมทั้งได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP แบบครบวงจร และมาตรฐาน GAP ผลิตและจำหน่ายสับปะรดผลสดได้มาตรฐานส่งออก และมีกำลังการผลิตสูงถึง 3 ตันต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมอันดับที่ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 7 ของโลก โดยในปี 2565 ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดโลก มูลค่า 20,461 ล้านบาท (+1.8%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ อาเซียน จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ นม UHT นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม นมเปรี้ยว และโยเกิร์ต โดยประเทศคู่ FTA ของไทย ที่ลดภาษีนำเข้าสินค้านมที่ส่งออกจากไทยเหลือ 0% แล้ว ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และฮ่องกง และไทยส่งออกสินค้าทุเรียน มูลค่า 125,469 ล้านบาท (+5.35%) ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ โดยประเทศคู่ FTA ของไทย ที่ลดภาษีนำเข้าสินค้าทุเรียนจากไทยเหลือ 0% แล้ว ได้แก่ ฮ่องกง อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และชิลี ขณะที่ไทยส่งออกสินค้าสับปะรด มูลค่า 5,378 ล้านบาท (+56.66%) ตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย สเปน อิหร่าน และจีน ซึ่งประเทศคู่ FTA ของไทย ที่ลดภาษีสินค้าสับปะรดที่ส่งออกให้กับไทยเหลือ 0% แล้ว ได้แก่ ฮ่องกง เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และชิลี
21 มีนาคม 2566
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ