กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเวทีสัมมนา ?ผ่าความสำเร็จ เปิดเคล็ด (ไม่) ลับ ใช้ FTA รุกตลาดส่งออก? รวมพลคนแวดวง FTA เผยกลยุทธ์การใช้ประโยชน์จาก FTA บุกตลาดต่างประเทศ ให้กับผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมแนะผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐาน สร้างความโดดเด่น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มั่นใจ! FTA ช่วยสร้างความได้เปรียบ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดโลก
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา ?ผ่าความสำเร็จ เปิดเคล็ด (ไม่) ลับ ใช้ FTA รุกตลาดส่งออก? เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ โรงแรม เรดิสัน บลู พลาซ่า กรุงเทพฯ ว่า การจัดงานครั้งนี้ กรมได้มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการและนักธุรกิจรุ่นใหม่ ได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรี (FTA) และเกิดแรงบันดาลใจในการนำความรู้ที่ได้รับไปสร้างโอกาสทางการค้า รวมถึงใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายส่งออกไปยังตลาดการค้าเสรี
นางอรมน กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นการรวมพลผู้ประกอบการที่คร่ำหวอดในแวดวง FTA มากที่สุดเวทีหนึ่ง นอกจากจะมีนางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมยังได้เชิญนายรัตนะ สวามีชัย เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานพันธมิตรและทำงานร่วมกับกรมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลอดจนผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของกรม และประสบความสำเร็จในการส่งออกสินค้า โดยใช้ประโยชน์จาก FTA ได้แก่ นายนัยฤทธิ์ จำเล ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย (สินค้านมและผลิตภัณฑ์) นายสมเกียรติ กิตติธรสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บุณยเกียรติไอศกรีม จำกัด (ไอศกรีม) นายชนินทร์ ชินวงศ์ ผู้บริหาร บริษัท ช็อกโกทอส จำกัด (กาแฟและโกโก้) และนายพีรพงศ์ คุณเลิศอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามดีไลท์กรุ๊ป จำกัด (ขนมทองม้วน) ร่วมเสวนาให้ความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA และเคล็ดลับการผลิตและขายสินค้าอย่างไรให้โดนใจผู้บริโภคทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการไทย และประสบความสำเร็จในการปรับธุรกิจให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และความต้องการของตลาด
นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ภาคธุรกิจต้องเร่งปรับตัวเพื่อรับมือการค้าโลก ที่ปัจจุบันมีความผันผวนและเกิดการแข่งขันทางการค้า ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และใช้ประโยชน์จาก FTA สร้างความได้เปรียบและเพิ่มขีดความสามารถทางแข่งขันให้กับสินค้าไทยในตลาดโลก
ด้านนายรัตนะ สวามีชัย เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ให้ความเห็นว่า โอกาสของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยในตลาดการค้าเสรี ถือว่ายังมีโอกาสอีกมาก และจากการทำงานร่วมกับกรม ได้ช่วยแนะนำให้เกษตรกรพัฒนาการผลิตสินค้าจากผู้ปลูกให้เป็นผู้ค้าและผู้ส่งออก รวมทั้งผลักดันให้ใช้ประโยชน์จาก FTA ซึ่งทำให้เห็นว่า อนาคตของสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยสดใสอย่างแน่นอน
สำหรับผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมโครงการของกรม เห็นตรงกันว่า สิ่งสำคัญที่จะทำให้สินค้าเป็นที่ยอมรับและต้องการของตลาด จะต้องประกอบด้วย 1) มีคุณภาพมาตรฐาน ซึ่งนอกจากจะผลิตสินค้าได้ตามคุณภาพมาตรฐานในประเทศแล้ว จำเป็นต้องให้ได้คุณภาพมาตรฐานตามที่ประเทศเป้าหมายกำหนด 2) มีความโดดเด่นและแตกต่างจากสินค้าคู่แข่งในตลาด 3) มีเรื่องราวที่ทำให้สินค้ามีความน่าสนใจ อาทิ สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) หรือ เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน 4) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยมของผู้บริโภคทั่วโลก ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยหลายประเทศเริ่มนำประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากำหนดเป็นมาตรฐาน สำหรับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เช่น มาตรการคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นต้น และ 5) ใช้ความได้เปรียบจากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีกับประเทศคู่ค้า
ทั้งนี้ ในปี 2565 ไทยส่งออกสินค้าไปประเทศคู่ FTA มูลค่า 171,789 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.7 จากปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของการส่งออกทั้งหมด ตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวได้ดี อาทิ อาเซียน มูลค่า 71,890 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 10.4 (การส่งออกไปประเทศสมาชิกอาเซียน ขยายตัวเกือบทั้งหมด) ออสเตรเลีย มูลค่า 11,154 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.8 อินเดีย มูลค่า 10,525 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 22.5 และเกาหลีใต้ มูลค่า 6,388 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.4
14 กรกฎาคม 2566
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ