ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (SEOM) ครั้งที่ 3/54 เร่งติดตามผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ อาทิ ผลการศึกษาการจัดความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัล (DEFA) เห็นชอบยุทธศาสตร์ความเป็นกลางทางคาร์บอน ก่อนชงรัฐมนตรีเศรษฐกิจเคาะ ส.ค.นี้ พร้อมเตรียมประชุมกับคู่เจรจา อาทิ ออสเตรเลีย จีน สหรัฐฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม และความคืบหน้าการอัปเกรด FTA
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย) เข้าร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน (Senior Economic Officials Meeting: SEOM) ครั้งที่ 3/54 ระหว่างวันที่ 11-16 กรกฎาคม 2566 ณ เมืองสุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของปี 2566 ก่อนเสนอผลลัพธ์ต่อรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมเตรียมการประชุมกับประเทศนอกภูมิภาค ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน สหภาพยุโรป ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้ติดตามประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจที่จะผลักดันร่วมกัน ภายใต้การเป็นประธานของอินโดนีเซียในปีนี้ ทั้งด้านดิจิทัล ด้านสิ่งแวดล้อม และเสริมสร้างโครงสร้างอุตสาหกรรมพื้นฐานสำคัญของอาเซียน เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนให้ความเห็นชอบ อาทิ ผลการศึกษากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน หรือ DEFA (Digital Economy Framework Agreement) เพื่อให้ผู้นำประกาศเริ่มเจรจาจัดทำความตกลง DEFA ในเดือน ก.ย.นี้ และการสรุปขอบเขตการทำงานของคณะเจรจา นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบการจัดทำยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน ซึ่งจะเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้านนวัตกรรม การลงทุนคาร์บอนต่ำ การสร้างงานใหม่ๆ ในภูมิภาค และการจัดทำแถลงการณ์รัฐมนตรีเศรษฐกิจสำหรับการจัดทำกรอบการดำเนินงานว่าด้วยโครงการพื้นฐานของอาเซียน เพื่อขับเคลื่อนอาเซียนก้าวสู่ภูมิภาคที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ภายในปี 2593
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการรวมตัวทางเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ การเตรียมการลงนาม พิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงว่าด้วยการเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดาของอาเซียน การใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียน และการพัฒนาแนวทางการจัดทำหมายเลขทะเบียนนิติบุคคลร่วมกัน
สำหรับการหารือเตรียมการประชุมกับประเทศคู่เจรจา อาทิ การสรุปการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) กำหนดจะลงนามโดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนภายในปีนี้ การติดตามความคืบหน้าการเจรจายกระดับความตกลง FTA กับ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และแคนาดา การหารือเรื่องแผนงานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า อาทิ การจัดทำแผนปฏิบัติการทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ระหว่างกัน การยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และรัสเซีย โดยให้ความสำคัญกับสาขาเศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและบริการด้านสิ่งแวดล้อม การเงิน และห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ทั้งนี้ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนจะมีการประชุมกับประเทศคู่เจรจาในเดือน ส.ค.นี้
?การประชุม SEOM ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของปี ซึ่งได้กำหนดทิศทางที่สำคัญของอาเซียน โดยเฉพาะการเจรจาจัดทำความตกลง DEFA ที่ผู้นำจะประกาศเปิดการเจรจาในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเชื่อมกฎเกณฑ์ด้านการค้าดิจิทัลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าอิเล็กทรอนิกส์ในอาเซียน จาก 1.05 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2563 เป็น 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2568 รวมทั้งจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้การค้าระหว่างกันเติบโตถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีเดียวกันอีกด้วย? นายดวงอาทิตย์ เสริม
ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค. 2566) การค้าระหว่างไทยกับอาเซียน มีมูลค่า 49,653 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกัน 5.5% โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 28,044 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 21,609 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์
21 กรกฎาคม 2566
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ