เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน ถกเกาหลีใต้วางแนวทางยกระดับความตกลง AKFTA ลุยพัฒนานวัตกรรมของอุตสาหกรรมและสตาร์ทอัพ เร่งเจรจาจีนสรุปผลอัปเกรด FTA ภายในปี 67 มุ่งลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม จับมือญี่ปุ่นเร่งสรุปแผนด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ผนึกกำลังฮ่องกงเตรียมประกาศความสำเร็จสาขาที่จะเปิดเสรีด้านการลงทุน ในที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ส.ค.นี้
นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) ให้เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านเศรษฐกิจอาเซียน ? เกาหลีใต้ ครั้งที่ 39 อาเซียน ? จีน ครั้งที่ 44 อาเซียน ? ญี่ปุ่น ครั้งที่ 2/28 และอาเซียน?ฮ่องกง ครั้งที่ 11 ณ เมืองสุราบายา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 14 ? 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยในส่วนของอาเซียน ? เกาหลีใต้ ที่ประชุมได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) อาทิ การจัดทำตารางลดภาษีจากฉบับปี 2017 (HS 2017) เป็นฉบับปี 2022 (HS 2022) และการบังคับใช้พิธีสารที่แก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าอาเซียน-เกาหลีใต้ ที่ขณะนี้สมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ รวมทั้งไทยและเกาหลีใต้ได้ให้สัตยาบันพิธีสารดังกล่าวแล้ว โดยพิธีสารฯ จะช่วยอำนวยความสะดวกและสร้างความโปร่งใสทางการค้า ซึ่งจะส่งเสริมให้การค้าระหว่างอาเซียนและเกาหลีใต้เติบโตยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้คณะกรรมการดำเนินงานความตกลงการค้าเสรีอาเซียน?เกาหลีใต้ (AKFTA ? IC) หารือเกี่ยวกับผลการศึกษาร่วมเพื่อยกระดับความตกลง AKFTA ฉบับสมบูรณ์ รวมถึงหารือแนวทางความเป็นไปได้ในการยกระดับความตกลง AKFTA เพื่อให้มีความทันสมัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น และยังได้ติดตามความคืบหน้าการศึกษาวิจัยด้านการค้าดิจิทัล ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ เกาหลีใต้พร้อมสานต่อร่วมมือทางเศรษฐกิจกับอาเซียน อาทิ การจัดทำแผนงานนโยบายสตาร์ทอัพระหว่างอาเซียนกับเกาหลีใต้ การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือด้านมาตรฐานอุตสาหกรรม การพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านความปลอดภัยทางไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ประเทศสมาชิกอาเซียนจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้จากเกาหลีใต้ที่มีความโดดเด่นด้านการพัฒนานวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมและสตาร์ทอัพอย่างมาก
นายดวงอาทิตย์ กล่าวว่า สำหรับกรอบอาเซียน ? จีน ที่ประชุมได้หารือผลการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ในประเด็นปัญหาที่เป็นอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และได้มอบหมายคณะอนุกรรมการฯ เร่งติดตามและแก้ไขประเด็นปัญหาโดยเร็ว รวมทั้งได้เน้นย้ำให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องเร่งการเจรจายกระดับ ACFTA และจัดกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าในประเด็นสาขาใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล และการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปี 2567 นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ อาทิ การจัดสัมมนาอาเซียน ? จีน เกี่ยวกับกฎหมายและกฎระเบียบด้านเศรษฐกิจและการค้า และการจัดทำข้อริเริ่มในการขยายความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์อาเซียน ? จีน โดยตั้งเป้าหมายให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ? จีน เห็นชอบ เดือน ส.ค.นี้
ส่วนการหารือในกรอบอาเซียน ? ญี่ปุ่น ที่ประชุมได้เร่งรัดให้ได้ข้อสรุปข้อริเริ่ม ?การออกแบบอนาคตและแผนปฏิบัติการด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนของความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน - ญี่ปุ่น? (ปี 2566 ? 2576) โดยเร็ว อาทิ 1) ข้อริเริ่มเศรษฐกิจหมุนเวียนระหว่างอาเซียน ? ญี่ปุ่น 2) การนำไปสู่การเป็นห่วงโซ่อุปทานดิจิทัล 3) การร่วมสร้างสรรค์แก้ปัญหาความท้าทายทางสังคมกับภาคธุรกิจ และ 4) การจัดประชุมเครือข่ายระหว่างผู้นำทางธุรกิจรุ่นใหม่และนักธุรกิจ Z ? gen จากอาเซียนและญี่ปุ่น โดยจะเสนอที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ? ญี่ปุ่น (AEM ? METI Consultations) ครั้งที่ 29 ให้การเห็นชอบ ในวันที่ 22 ส.ค. 2566 ณ เมืองเซมารัง อินโดนีเซีย ก่อนเสนอที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ? ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ เดือน ธ.ค. 2566 ณ กรุงโตเกียว เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน ? ญี่ปุ่น นอกจากนี้ สถาบันวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียตะวันออก (ERIA) จะเปิดตัวศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน เดือน ก.ย. 2566 ซึ่งจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการและองค์กรต่างๆ ในการแลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
สำหรับกรอบอาเซียน ? ฮ่องกง ที่ประชุมรับทราบว่าอาเซียนและฮ่องกงสามารถเจรจากฎถิ่นกำเนิดสินค้าเฉพาะรายสินค้า (Product Specific Rules: PSRs) ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน ? ฮ่องกง (AHKFTA) ได้ครบ 557 รายการแล้ว ซึ่งการใช้ PSRs เป็นการกำหนดเกณฑ์ถิ่นกำเนิดสินค้าที่สะท้อนกระบวนการผลิตที่แท้จริงของสินค้านั้นๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ส่งออกสามารถผ่านเกณฑ์ได้ง่ายขึ้น และจะช่วยส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างกัน สำหรับแผนงานภายใต้ความตกลงด้านการลงทุนอาเซียน ? ฮ่องกง (AHKIA) ล่าสุดสามารถหาข้อสรุปสาขาที่จะเปิดเสรีด้านการลงทุนระหว่างกันอย่างมีนัยสำคัญแล้ว โดยตั้งเป้าหมายที่จะประกาศความสำเร็จในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ฮ่องกง เดือน ส.ค.นี้ นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เร่งรัดสองฝ่ายหาข้อสรุปประเด็นอื่นๆ ที่อยู่ในแผนงานของความตกลง AHKIA อาทิ การกำหนดคำนิยามบุคคลธรรมดาของสมาชิก และแนวทางการระงับข้อพิพาทด้านการลงทุนระหว่างนักลงทุนกับรัฐ เพื่อผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากความตกลงด้านการลงทุนอย่างเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการของความตกลง AHKFTA โดยในปีนี้ มีโครงการที่ไทยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากฮ่องกง จำนวน 96,211.5 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.29 ล้านบาท) ได้แก่ โครงการการอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับการประมง ซึ่งจะอบรมเจ้าหน้าที่ของประเทศสมาชิกอาเซียนให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการใช้ประโยชน์จากระบบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Logistics) เพื่อควบคุมกลไกการเสื่อมสภาพ คุณภาพ และการประเมินอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ประมง ซึ่งเป็นสินค้าสำคัญของไทยและสมาชิกอาเซียนหลายประเทศ
31 กรกฎาคม 2566
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ