?พาณิชย์? เผยผลประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (CTI) กรอบเอเปค มุ่งสู่ระบบการค้าพหุภาคี และ WTO ขับเคลื่อนการประชุมรัฐมนตรี WTO ช่วงต้นปี 67 ให้สำเร็จและเป็นรูปธรรม เคาะกรอบการทำงาน ปี 67-68 มุ่งเจรจาประเด็นใหม่ๆ ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ห่วงโซ่อุปทาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เดินหน้าแผนงาน FTAAP ก่อนรายงานผลต่อรัฐมนตรีและผู้นำเอเปค พ.ย.นี้
นายรัชวิชญ์ ปิยะปราโมทย์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (CTI) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในกรอบเอเปค ระหว่างวันที่ 13-14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ นครซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการประชุมก่อนรายงานผลต่อที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคและผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อมอบหมายแนวทางการดำเนินการต่อไป โดยที่ประชุมได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคีที่มีกฎกติกา และมีองค์การการค้าโลก (WTO) เป็นศูนย์กลาง รวมทั้งเรียกร้องให้ร่วมกันส่งสัญญาณเชิงบวก เพื่อขับเคลื่อนให้การประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 13 ในช่วงต้นปี 2567 ประสบความสำเร็จ และมีผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ตอบสนองต่อสถานการณ์การค้า และความท้าทายในปัจจุบัน โดยไทยได้กล่าวสนับสนุนและเน้นย้ำบทบาทเด่นของเอเปคที่เป็นแหล่งบ่มเพาะไอเดียใหม่ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำงานของ WTO ในประเด็นต่างๆ
นายรัชวิชญ์ กล่าวว่า เอเปคได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อน ?แผนงานเขตการค้าเสรี เอเชีย-แปซิฟิก" (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP)? ซึ่งเป็นการสานต่อผลลัพธ์การเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี 2565 โดยสมาชิกได้ร่วมกันกำหนดสาขาที่จะดำเนินการร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการจัดทำ FTAAP อาทิ การส่งเสริมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กฎเกณฑ์การค้าดิจิทัลที่สนับสนุน MSMEs การอำนวยความสะดวกทางการค้าผ่านแพลตฟอร์มการค้า และการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างครอบคลุม โดยจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของสมาชิกให้สามารถจัดการกับประเด็นการค้าการลงทุนและความท้าทายใหม่ๆ ผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างกัน ทั้งนี้ เปรูในฐานะเจ้าภาพเอเปค ปี 2567 จะสานต่อเรื่อง FTAAP ต่อไป
นอกจากนี้ เอเปคยังให้การรับรอง ?กรอบการทำงานสำหรับความจำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค? ระหว่างปี 2567-2568 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของสมาชิกในการเจรจาประเด็นใหม่ๆ อาทิ เศรษฐกิจดิจิทัล ห่วงโซ่อุปทาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนการทำงานภายใต้แผนงาน FTAAP อีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 2566) การค้าระหว่างไทยกับเอเปค มีมูลค่า 8 ล้านล้านบาท (233.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยไทยส่งออกไปเอเปค มูลค่า 3.9 ล้านล้านบาท (114.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และไทยนำเข้าจากเอเปค มูลค่า 4.1 ล้านล้านบาท (119.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
8 สิงหาคม 2566
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ