กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หารืออัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของฝรั่งเศส หาแนวทางขยายโอกาสการค้าและการลงทุน ร่วมมือด้านนวัตกรรมอาหาร สุขภาพและการแพทย์ แฟชั่น พร้อมเตรียมจัดประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-ฝรั่งเศส (HLED) ครั้งที่ 5 เล็งพัฒนาความร่วมมือสาขาใหม่ๆ ทั้งเกษตรสมัยใหม่ ฟาร์มอัจฉริยะ พลังงานสีเขียว หนุนการเจรจา FTA ไทย-อียู
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายฌอง โซล-มาเช่ (Mr. Jean SOL-MACHER) อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ที่ได้เข้าพบแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยได้หารือประเด็นความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระหว่างไทยและฝรั่งเศส รวมถึงการเตรียมการสำหรับจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและฝรั่งเศส (High Level Economic Dialogue: HLED) ครั้งที่ 5 ที่ฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพในปีนี้
นางสาวโชติมา กล่าวว่า การพบกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความเห็นและแนวทางการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมถึงการกระชับความร่วมมือระหว่างกัน ผ่านกลไก HLED โดยเฉพาะในสาขาที่สองฝ่ายเล็งเห็นประโยชน์ร่วมกัน เช่น นวัตกรรมอาหาร สุขภาพและการแพทย์ แฟชั่น เครื่องสำอางและน้ำหอม อวกาศ และการขนส่งและโลจิสติกส์ ซึ่งนอกจากจะสอดคล้องกับนโยบายการทูตเศรษฐกิจเชิงรุกของรัฐบาลปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับการรักษาตลาดและพัฒนาความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้าอย่างยั่งยืนแล้ว ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจ และสนับสนุนการเพิ่มศักยภาพในการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนด้วย
สำหรับเวทีการประชุม HLED 4 ครั้ง ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ซึ่งการประชุม HLED ครั้งที่ 5 ในปีนี้ ไทยและฝรั่งเศสมุ่งหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถพัฒนาความร่วมมือในสาขาใหม่ ๆ เช่น การเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงระบบฟาร์มอัจฉริยะ (smart farming) เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง พลังงานสีเขียว และอุตสาหกรรมเพื่อความยั่งยืน นอกจากนี้ สองฝ่ายพร้อมสนับสนุนการเจรจา FTA ไทย-อียู ซึ่งฝรั่งเศสเป็นสมาชิกอยู่ด้วยให้สำเร็จ โดยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุน ตลอดจนยกระดับมาตรฐานระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายสู่สากลได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 2566) ฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในอียู รองจากเยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 24 ของไทยในตลาดโลก การค้าระหว่างกันมีมูลค่ารวม 4,882.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปฝรั่งเศส มูลค่า 1,764.78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากฝรั่งเศส มูลค่า 3,118.20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไทยเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ามูลค่า 1,353.42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เลนซ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ เครื่องประดับอัญมณี เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สบู่ ผงซักฟอก เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม
16 มกราคม 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ