?ไทย-เอฟตา? เจรจา FTA รอบ 9 ที่กรุงเทพฯ ทั้งการประชุมระดับหัวหน้าผู้แทน และการประชุมกลุ่มย่อย 10 คณะ มีความคืบหน้าหลายเรื่อง บางกลุ่มสรุปผลได้แล้ว และหลายกลุ่มใกล้ได้ข้อสรุป พร้อมนัดถกรอบที่ 10 ช่วงเดือน ส.ค.นี้ เร่งเครื่องเต็มที่ ตั้งเป้าปิดดีลปีนี้ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดการเจรจา FTA กับคู่ค้าสำคัญให้สำเร็จโดยเร็ว
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาเพื่อจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) หรือ เอฟตา รอบที่ 9 ระหว่างวันที่ 23-26 เมษายน ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพฯ โดยทั้งสองฝ่ายเร่งเครื่องการเจรจาอย่างเต็มที่ ซึ่งในภาพรวมมีความคืบหน้าในหลายเรื่อง บางกลุ่มสรุปผลได้แล้ว และหลายกลุ่มใกล้ได้ข้อสรุปผล ทั้งนี้ การเจรจารอบที่ 10 จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาภายในปี 2567 ตามเป้าหมาย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญในลำดับต้นที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดการเจรจา FTA กับคู่ค้าสำคัญให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อขยายโอกาสการค้าและการลงทุน ตลอดจนเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นางสาวโชติมา กล่าวว่า สำหรับการประชุมรอบนี้ ประกอบด้วย การประชุมระดับหัวหน้าผู้แทน และการประชุมกลุ่มย่อย 10 คณะ ได้แก่ 1) การค้าสินค้า 2) กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า 3) มาตรการเยียวยาทางการค้า 4) มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช 5) การค้าบริการ 6) การลงทุน 7) การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 8) ทรัพย์สินทางปัญญา 9) ข้อบททั่วไป ข้อบทสุดท้าย ข้อบทเชิงสถาบัน และการระงับข้อพิพาท และ 10) ความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ
สำหรับผู้แทนฝ่ายไทยจากหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมการประชุมเจรจาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ
ทั้งนี้ เอฟตา ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับที่ 16 ของไทย โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับเอฟตา มีมูลค่า 9,882.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 1.72 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปเอฟตา มูลค่า 4,385.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอฟตา มูลค่า 5,497.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
29 เมษายน 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ