?พาณิชย์? ถกออสเตรีย เล็งขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบริหารจัดการน้ำ และการขับเคลี่อนนโยบาย BCG หนุนการเจรจา FTA ไทย-อียู ด้านออสเตรียสนใจร่วมมือกับไทยเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์-ภาพยนตร์ คุยภาคเอกชนชูโอกาสทำธุรกิจในไทย ส่วนผู้ประกอบการออสเตรียสนใจดำเนินธุรกิจกับไทย ทั้งสาขาการพัฒนาเทคโนโลยีในโครงสร้างพื้นฐาน เคมีภัณฑ์ และการพัฒนาซอฟแวร์
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ (Joint Working Group on Trade and Economic Co-operation) ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐออสเตรีย ครั้งที่ 1 ร่วมกับนายฟลอเรียน ฟราวเชอร์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจ นวัตกรรม และนโยบายระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมสานต่อความร่วมมือที่มีอยู่แล้ว อาทิ เมืองอัจฉริยะ การศึกษาระดับอุดมศึกษาและสายอาชีพ และการรถไฟ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งมีความสนใจร่วมกันที่จะขยายความร่วมมือในสาขาอื่นๆ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและน้ำพุร้อน การบริหารจัดการน้ำและของเสีย และการขับเคลี่อนนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG) อีกทั้งสนับสนุนการเจรจาความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
นางสาวโชติมา กล่าวว่า ฝ่ายออสเตรียได้แจ้งความสนใจที่จะร่วมมือกับไทยเพิ่มเติมในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการบริหารจัดการการจราจร ขณะที่ฝ่ายไทยได้เสนอสาขาความร่วมมือเพิ่มเติม อาทิ เกษตรอินทรีย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีสิ่งทอ และอัญมณีและเครื่องประดับ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหารือกับภาคเอกชน ประกอบด้วย ผู้ประกอบการของออสเตรีย 50 ราย ผู้แทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยได้นำเสนอมาตรการส่งเสริมการค้าและการลงทุนของแต่ละหน่วยงาน รวมทั้งโอกาสและประโยชน์ต่อธุรกิจออสเตรียในการเป็นพันธมิตรทางการค้าและการเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งผู้ประกอบการออสเตรียได้แจ้งความสนใจที่จะดำเนินธุรกิจกับไทยในสาขาต่างๆ เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีในโครงสร้างพื้นฐาน เคมีภัณฑ์ และการพัฒนาซอฟแวร์ เป็นต้น
สำหรับไทยและออสเตรียได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงแรงงานและเศรษฐกิจของสาธารณรัฐออสเตรียกับกระทรวงพาณิชย์ของราชอาณาจักรไทย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 เพื่อเป็นกรอบในการพัฒนาและขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและวิชาการ ให้แน่นแฟ้นขึ้น
ทั้งนี้ ออสเตรียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 56 ของไทยในโลก และเป็นอันดับที่ 12 ในสหภาพยุโรป โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยและออสเตรีย มีมูลค่า 682.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรีย มูลค่า 218.34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากออสเตรีย มูลค่า 464.31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษา อัญมณีและเครื่องประดับ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องเพชรพลอย
10 พฤษภาคม 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ