ดร. นลินี ทวีสิน ร่วมวงรัฐมนตรีการค้า และรัฐมนตรีด้านสตรี APEC ชูการส่งเสริมบทบาทสตรีในเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบที่ยั่งยืนและครอบคลุม บ่ายเน้นย้ำนโยบายการค้าเชิงรุกของรัฐบาลและบทบาทของเวทีเอเปคต่อพัฒนาการของค้าไทย
ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เข้าร่วมประชุมระหว่างรัฐมนตรีด้านสตรีและรัฐมนตรีด้านการค้าของเอเปค หารือถึงการค้าและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อสตรี ย้ำการส่งเสริมบทบาทสตรีในเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบที่ยั่งยืนและครอบคลุม บ่ายเข้าประชุมระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปค ในหัวข้อการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี ย้ำนโยบายการค้าเชิงรุกของรัฐบาลและบทบาทของเวทีเอเปคต่อพัฒนาการของค้าไทย
ดร. นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ ได้มีการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีด้านสตรีและรัฐมนตรีด้านการค้าของเอเปค ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีการค้าได้มีการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีด้านสตรีเอเปค โดยที่ประชุมได้มีการหารือถึงการค้าและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อสตรี การเสริมสร้างโอกาสให้กับสตรีในการเข้าถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการกำหนดแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหาที่สตรีกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของมุมมองทางสังคมที่มีต่อสตรี โอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ไม่เท่าเทียม โดยตนได้ใช้โอกาสนี้ เน้นย้ำความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรี การสร้างงานและการสร้างรายได้ให้แก่สตรี โดยเฉพาะผ่านอีคอมเมิร์ซ และโซเชียลมีเดีย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้มีการจัดหลักสูตรอบรม การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน การปรับมุมมองของสังคมต่อสตรี ซึ่งทั้งหมดนี้เนื่องจากไทยเชื่อว่าการส่งเสริมบทบาทของสตรีในเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการมุ่งไปสู่การเติบที่ยั่งยืนและครอบคลุมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุมนี้ประธานาธิบดีดินา โบลัวร์เต ของเปรูได้เข้าร่วมและได้แสดงความเห็นด้วย
ดร. นลินี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายเป็นการหารือระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปค ในหัวข้อการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี โดยที่ประชุมเห็นพ้องว่าเอเปคเป็นเวทีสำคัญสำหรับการหารือ แลกเปลี่ยนความเห็น การเสริมสร้างขีดความสามารถ และการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดี โดยเฉพาะในประเด็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า การพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการปฏิบัติตามผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก ที่ประชุมยังให้ความสำคัญกับการปฏิรูปองค์การการค้าโลก โดยเฉพาะกลไกระงับข้อพิพาท เพื่อให้องค์การการค้าโลกยังคงทันต่อเหตุการณ์และแนวโน้มทิศทางของการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยตนได้ให้ความเห็นต่อที่ประชุมเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านการเจรจาจัดทำ FTA นอกจากนี้ ไทยยังส่งเสริมนโยบายการค้าที่คำนึงถึงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางดิจิทัล
20 พฤษภาคม 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ