ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หารือทูต UK มุ่งขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (JETCO) ไทย-UK เน้นสาขาที่มีศักยภาพร่วมกัน ทั้งการเกษตร อาหาร ดิจิทัล การลงทุน และการเงิน คาดจะจัดประชุมครั้งที่ 2 เดือนก.ย.นี้ พร้อมแจ้งเรื่องการปรับปรุงกระบวนการขอสิทธิบัตรยาให้มีความรวดเร็วขึ้น จะดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 ปี ช่วยให้การลงทุนในไทยสะดวกและราบรื่นมากขึ้น
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้พบหารือกับเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย (นายมาร์ค กุดดิ้ง) ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนร่วมกัน ผ่านกลไกการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้า (Joint Economic and Trade Committee: JETCO) ไทย-สหราชอาณาจักร (UK) ในระดับรัฐมนตรี เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในการดำเนินธุรกิจและลดอุปสรรคทางการค้าต่างๆ โดยเฉพาะสาขาที่มีศักยภาพและทรัพยากรที่ส่งเสริมกัน อาทิ การเกษตร อาหารและเครื่องดื่ม ดิจิทัล การลงทุน และการเงิน รวมทั้งได้หารือเบื้องต้นถึงความเป็นไปได้ในการจัดประชุม JETCO ไทย-UK ครั้งที่ 2 ในเดือนกันยายนนี้
นายวุฒิไกร กล่าวว่า ได้ขอบคุณ UK ที่ให้การสนับสนุนในกระบวนการพิจารณารับไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) และได้ใช้โอกาสนี้แจ้งว่า ปัจจุบันไทยได้ปรับปรุงกระบวนการในการขอสิทธิบัตรยาให้มีความรวดเร็วขึ้น โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งจะช่วยให้การลงทุนในอุตสาหกรรมยาและการแพทย์ในไทยเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่นมากขึ้น นอกจากนี้ ไทยยังได้แสดงความยินดีกับการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี UK (เซอร์เคียร์ สตาเมอร์) โดยฝ่าย UK ให้ข้อมูลว่า นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดใหม่มุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การลดอัตราเงินเฟ้อ การลดค่าครองชีพ โดยเฉพาะพลังงานและอาหาร การเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน โดยเน้นพลังงานสีเขียว (Green Energy) การสร้างแรงจูงใจและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน และการเร่งสร้างความสัมพันธ์กับประเทศคู่ค้า ผ่านการจัดทำ FTA หรือความร่วมมือทางการค้าอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจและการทูตพาณิชย์เชิงรุกของรัฐบาลไทยอีกด้วย
ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับ 22 ของไทยในตลาดโลก และเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของไทยในภูมิภาคยุโรป รองจากเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร มีมูลค่า 6,740.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปสหราชอาณาจักร มูลค่า 4,073.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากสหราชอาณาจักร มูลค่า 2,667.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ไก่แปรรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องดื่มประเภทน้ำแร่
27 กรกฎาคม 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ