?ไทย-เอฟตา? เจรจา FTA รอบ 10 คืบหน้าด้วยดี เร่งเครื่องเจรจาให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ ชี้เป็น FTA ที่ครอบคลุมการค้าสินค้า การค้าบริการและการลงทุน ประเด็นการค้าใหม่ๆ ย้ำ! เอฟตา เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง และมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย หนุนไทยในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐาน-ระบบเศรษฐกิจ รองรับกติกาการค้ายุคใหม่
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (Free Trade Agreement : FTA) กับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) หรือ ?เอฟตา? รอบที่ 10 ระหว่างวันที่ 19-23 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยการเจรจารอบนี้ มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี เหลือประเด็นคงค้างไม่มาก ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะเร่งสรุปผลเจรจาภายในปีนี้ ตามที่ได้ตั้งเป้าให้การเจรจาจบภายใน 2 ปี นับแต่การประกาศเริ่มต้นเจรจาในปี 2565 ซึ่งการเจรจา FTA ไทย-เอฟตา ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการขยายโอกาสการค้าและการลงทุน ตลอดจนเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
สำหรับการเจรจารอบที่ 10 มีผู้แทนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานภายนอก เข้าร่วมเจรจาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข กรมศุลกากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
นางสาวโชติมา เสริมว่า FTA ไทย-เอฟตา เป็นความตกลงการค้าเสรีที่ครอบคลุมการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ตลอดจนประเด็นการค้าใหม่ๆ อาทิ การแข่งขัน การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ทรัพย์สินทางปัญญา วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน และความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกเอฟตา เป็นตลาดที่มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง และมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย รวมทั้งสามารถสนับสนุนความพยายามของไทยในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานและระบบเศรษฐกิจของประเทศ รองรับกติกาการค้ายุคใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ เอฟตา ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ โดยในปี 2566 เอฟตาเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 16 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเอฟตา มีมูลค่า 9,882.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 1.72 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปเอฟตา มูลค่า 4,385.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอฟตา มูลค่า 5,497.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับบริโภค และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม
27 สิงหาคม 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ