กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ร่วมประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (CTI) เร่งติดตามประเด็นการค้าและการลงทุนที่เปรูเป็นเจ้าภาพปีนี้ ทั้งการเปิดตลาด-ด้านบริการ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรี สนับสนุนความร่วมมือการค้าภายใต้ WTO มุ่งใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับการค้าในเอเปค ผลักดันการเจรจาจัดทำ FTA เอเชีย-แปซิฟิก ก่อนชงผู้นำเอเปคปลายปีนี้
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายผู้แทนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (Committee on Trade and Investment : CTI) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในช่วงการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค (Senior Officials? Meeting : SOM) ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 12-25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู ซึ่งเปรูในฐานะเจ้าภาพการประชุมเอเปคปีนี้จัดขึ้น เพื่อติดตามและหารือประเด็นการค้าและการลงทุนในกรอบเอเปค
นางสาวโชติมา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการพบกันครั้งสุดท้ายก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปค และระดับผู้นำเอเปคช่วงปลายปีนี้ ซึ่งกรมในฐานะผู้รับผิดชอบการขับเคลื่อนงานด้านการค้าและการลงทุนของเอเปค ได้ร่วมหารือในประเด็นสำคัญ ได้แก่ การประชุมกลุ่มทำงานด้านการเปิดตลาด และกลุ่มงานด้านบริการ อาทิ การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของสตรีในระบบเศรษฐกิจ การส่งเสริมความร่วมมือการค้าระหว่างประเทศภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกเอเปคเพื่อยกระดับความสามารถร่วมกันอย่างรอบด้าน ทั้งการอำนวยความสะดวกทางการค้า การเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของผู้ประกอบการรายย่อยและสตรี และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับการค้าในเอเปค
นอกจากนี้ CTI ได้มุ่งผลักดันการขับเคลื่อนการจัดทำความตกลงการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก หรือ FTA เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งเป็นเป้าหมายการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของเอเปคให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อรับมือกับความท้าทายหรือประเด็นใหม่ทางการค้า เช่น การค้าดิจิทัล ความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียมทางเพศ และความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นต้น โดยเปรูในฐานะเจ้าภาพเอเปคให้ความสำคัญกับ FTA เอเชีย-แปซิฟิก และได้จัดให้มีรูปแบบการหารือทางนโยบาย (Policy Dialogue) ระหว่างสมาชิกเอเปคมาตลอดทั้งปี โดยได้ระดมความเห็นของสมาชิกเอเปคเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือและกิจกรรมสำคัญต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำ FTA เอเชีย-แปซิฟิก เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเปรูจะนำผลการหารือไปเสนอผู้นำในช่วงการประชุมผู้นำเอเปคปลายปีนี้
ทั้งนี้ เปรูได้กำหนดหัวข้อหลักในการเป็นเจ้าภาพเอเปคปีนี้ คือ ?เสริมสร้าง.ครอบคลุม.เติบโต.? (EMPOWER.INCLUDE.GROW.) ซึ่งเน้นย้ำมิติทางสังคมสำหรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การเร่งส่งเสริมกลุ่มที่เปราะบาง และการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ เปรูยังกำหนดประเด็นสำคัญที่จะขับเคลื่อนในปีนี้ คือการค้าและการลงทุนสำหรับการเจริญเติบโตที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกัน และนวัตกรรมและดิจิทัล เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจในระบบและเศรษฐกิจโลก และการเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยืดหยุ่น
สำหรับเอเปคหรือกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบด้วยสมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนดารุสซาลาม แคนาดา ชิลี จีน จีนฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย สิงคโปร์ จีนไทเป ไทย สหรัฐฯ และเวียดนาม โดยในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย 2567) การค้าของไทยกับเอเปค มีมูลค่า 201,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 70.39 ของการค้ารวมของไทย โดยไทยส่งออกไปเอเปค มูลค่า 99,816.46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอเปค มูลค่า 101,333.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
29 สิงหาคม 2567
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ