กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เผย 24 รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและประเทศภาคี เตรียมประชุมนัดสุดท้ายของปี 2567 สรุปผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจและพิจารณาเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ พร้อมติดตามความคืบหน้าการเจรจาอัปเกรด FTA และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ 14 ประเทศภาคีของอาเซียน ก่อนเสนอที่ประชุมผู้นำอาเซียน ต.ค.นี้
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สปป.ลาว ในฐานะประธานอาเซียน ปี 2567 กำหนดจัดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Ministers? Meeting: AEM) ครั้งที่ 56 และการประชุมระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ระหว่างวันที่ 16 ? 22 กันยายน 2567 ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) จะเดินทางเข้าร่วมการประชุม AEM ครั้งที่ 56 ระหว่างวันที่ 17- 18 กันยายน 2567 เพื่อสรุปผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอาเซียน ในปี 2567 อาทิ การมีผลบังคับใช้ของพิธีสารฉบับที่ 2 เพื่อแก้ไขความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และการรับรองแผนงานเพื่อจัดทำหมายเลขทะเบียนนิติบุคคลที่สามารถเปรียบเทียบเคียงและยอมรับร่วมกันได้ในอาเซียน
นางสาวโชติมา กล่าวว่า การประชุม AEM ครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ให้ความเห็นชอบและรับรองเอกสารผลลัพธ์ด้านเศรษฐกิจที่สำคัญ 17 เรื่อง ก่อนเสนอต่อคณะมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและผู้นำอาเซียนรับรองในเดือนตุลาคมนี้ โดยมีผลงานที่สำคัญ อาทิ ปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเสริมสร้างการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานระหว่างกัน การทบทวนกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเตรียมการเจรจายกระดับความตกลงทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน และแผนงานว่าด้วยมาตรฐานการค้าดิจิทัลของอาเซียน
สำหรับในช่วงการประชุมดังกล่าว จะมีการประชุมหารือกับรัฐมนตรีการค้าของประเทศภาคีที่เป็นคู่ค้าสำคัญของอาเซียน ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาและการยกระดับความตกลง FTA อาทิ อาเซียน?จีน อาเซียน?อินเดีย และอาเซียน?แคนาดา รวมถึงจะพิจารณาแผนงานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าของอาเซียนกับประเทศภาคี อาทิ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป สมาคมการค้าเสรียุโรป รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะการขยายสาขาความร่วมมือใหม่ ๆ ที่รองรับรูปแบบการค้าในอนาคต เช่น เศรษฐกิจและนวัตกรรมดิจิทัล การพัฒนา MSMEs อุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ และการค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นต้น
นอกจากนี้ จะมีการประชุมรัฐมนตรี RCEP ครั้งที่ 3 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการจัดตั้งหน่วยงานฝ่ายเลขาฯ ความตกลง RCEP และการรับสมาชิกใหม่ รวมทั้งจะประชุมร่วมกับผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาและส่งเสริมการใช้?ทรัพย์?สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์ และหารือกับสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) เพื่อผลักดันประเด็นขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคเอกชน อาทิ การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาที่ยั่งยืน พลังงานสะอาด และความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน
13 กันยายน 256
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ