กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หารืออุปทูตอาร์เจนตินา กระชับความสัมพันธ์ทางการเศรษฐกิจ มุ่งเน้นการจัดทำ FTA ขับเคลื่อนการค้าและการลงทุน ด้านไทย อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA กับ MERCOSUR หวังใช้เป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคลาตินอเมริกา ชี้! อาร์เจนตินา มีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย พร้อมส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ได้หารือกับนายฆาเบียร์ เด ซิกโก อุปทูตสถานเอกอัครราชทูตอาร์เจนตินาประจำประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าให้เพิ่มขึ้น ในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 70 ปี ในปี 2568 โดยอาร์เจนตินามุ่งเน้นการค้าเสรีที่ให้ความสำคัญกับการจัดทำ FTA และการส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ โดยไทยยินดีที่จะสานต่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกันต่อไป
นางสาวโชติมา กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องถึงความสำคัญในการทำ FTA ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เห็นถึงศักยภาพของอาร์เจนตินาและภูมิภาคลาตินอเมริกา จึงอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA ไทย-กลุ่มตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง (MERCOSUR) ประกอบด้วยสมาชิกก่อตั้ง 4 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา บราซิล ปารากวัย และอุรุกวัย ซึ่งนับเป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่สำคัญและสามารถเป็นประตูการค้าของไทยสู่ภูมิภาคลาตินอเมริกา ทั้งนี้ อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย และกำลังมีการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และพลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ และพร้อมที่จะหารือกับไทยในเรื่องนี้ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ อาร์เจนตินาเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 32 ของไทย และเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยในปี 2567 การค้าระหว่างไทยและอาร์เจนตินา มีมูลค่า 1,925.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.73 จากปีก่อนหน้า โดยไทยส่งออกไปอาร์เจนตินา มูลค่า 1,579.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2.53 และไทยนำเข้าจากอาร์เจนตินา มูลค่า 345.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3.68 สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค
1 มีนาคม 2568
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ