การค้าภายใต้เอฟทีเอ

          “พาณิชย์” สรุปการค้าขายภายใต้เอฟทีเอ 5 เดือนแรกพุ่งกระฉูด ไทยเกินดุลการค้าออสเตรเลีย อินเดีย เปรู และบิมส์เทค แต่ขาดดุลกับนิวซีแลนด์ จีน ญี่ปุ่นและเอฟตา “ชุติมา” ยันไม่น่าเป็นห่วง เหตุสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นปัจจัยการผลิตที่จะหนุนส่งออกในอนาคต ย้ำมีการประเมินเอฟทีเออย่างต่อเนื่อง ถ้าพบผิดปกติ พร้อมใช้มาตรการจัดการแนะผู้ผลิตขอใช้เงินกองทุนเอฟทีเอ หากได้รับผลกระทบ  
          นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์การค้าของไทยภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) ว่า การค้ากับทุกประเทศมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น สินค้าสำคัญของไทยสามารถเปิดตลาดได้มากขึ้น โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับออสเตรเลีย อินเดีย เปรู และบิมส์เทค แต่ขาดดุลการค้ากับนิวซีแลนด์  จีน  ญี่ปุ่น  และเอฟตา
          สาเหตุที่การทำเอฟทีเอของไทยกับประเทศต่างๆ ที่มีทั้งเกินดุลการค้า และขาดดุลการค้านั้น โดยในส่วนของการเกินดุลการค้า เนื่องจากสินค้าสำคัญๆ ของไทยที่ประเทศคู่ค้าได้มีการปรับลดอัตราภาษีภายใต้ข้อตกลงเอฟทีเอ ทำให้สินค้าไทยมีขีดความสามารถในการส่งออกเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งอื่นๆ ที่ไม่ได้ทำเอฟทีเอ ส่วนการขาดดุลการค้า ก็ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากการนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ เป็นสินค้าที่เป็นปัจจัยในการผลิตของไทย โดยเฉพาะสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป อันจะมีผลต่อการส่งออกในอนาคต
          สำหรับมูลค่าการค้าภายใต้เอฟทีเอไทย-ออสเตรเลีย ไทยส่งออก  90,114.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.25% นำเข้า 59,464.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.20% โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 30,650.61 ล้านบาท เอฟทีเอไทย-นิวซีแลนด์ ไทยส่งออก 9,264.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.31% นำเข้า 9,847.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94.75% ขาดดุลการค้า 583.56 ล้านบาท
          เอฟทีเอไทย-อินเดีย ไทยส่งออก 42,212.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.90% นำเข้า 36,454.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.09% เกินดุลการค้า 5,757.63 ล้านบาท เอฟทีเอไทย-จีน ไทยส่งออก 222,739.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น17.82% นำเข้า 265,168.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.62% ขาดดุลการค้า 42,428.79 ล้านบาท เอฟทีเอไทย-ญี่ปุ่น  ไทยส่งออก 261,109.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.92% นำเข้า 443,659.72 ล้านบาท  ขาดดุลการค้า182,550.21 ล้านบาท
          ส่วนเอฟทีเอไทย-เปรู ไทยส่งออก 3,359.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212.45% นำเข้า 1,259.08 ล้านบาท ลดลง 26.54% เกินดุลการค้า 2,100.23 ล้านบาท เอฟทีเอไทย-บิมสเทค ไทยส่งออก 75,799.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.45% นำเข้า 74,830.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.07% เกินดุลการค้า 968.88 ล้านบาท และเอฟทีเอ ไทย-เอฟตา ไทยส่งออก 21,959.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.27% นำเข้า 44,752.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.20% ขาดดุลการค้า 22,793.75 ล้านบาท
          นางสาวชุติมากล่าวว่า แม้เอฟทีเอจะทำให้ไทยส่งออกได้มากขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าในบางสินค้าอาจจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีที่มีสินค้าชนิดเดียวกันเข้ามาแข่งขันบ้าง แต่ภาครัฐก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย โดยได้มีการติดตามและประเมินสถานการณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเห็นว่ามีสินค้าที่ทะลักเข้ามามากจนกระทบกับอุตสาหกรรมภายใน  ก็สามารถมีมาตรการออกมาป้องกันได้ หรือในส่วนของผู้ประกอบการเอง หากเห็นว่าจะได้รับผลกระทบ ก็สามารถทำเรื่องเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอใช้เงินสนับสนุนการปรับตัวจากกองทุนเอฟทีเอได้
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 
          โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
-พห-