พาณิชย์จัดสัมมนาสร้างความเข้าใจเปิดเสรีสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน

          “พาณิชย์”นัดอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ชี้แจงแนวทางการเปิดเสรี พร้อมขอรับฟังความเห็นในการกำหนดท่าทีไทยในการเจรจาเปิดเสรี 29 กันยายนนี้ ย้ำอนาคตการเปิดเสรีจะมีมากขึ้น หลังไทยมีนโยบายชัดเจนในการเป็นดีทรอย ออฟ เอเชีย 
          นางสาวชุติมา  บุณยประภัศร  อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของไทยทั้งภาครัฐและเอกชน มาประชุมหารือในวันที่ 29 กันยายน 2551 ที่โรงแรมสยามซิตี้ กรุงเทพฯ ในหัวข้อเรื่อง “อนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนไทย เมื่อไร้กำแพงภาษี” เพื่อชี้แจงความคืบหน้าการเจรจาเปิดตลาดสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนในทุกกรอบการเจรจา และแนวทางการปรับตัวของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งจะเปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนต่อการเปิดตลาดสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
          ทั้งนี้ ในปัจจุบันแม้การเจรจาการค้าภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) จะหยุดชะงักลง แต่การเจรจาในกรอบทวิภาคียังคงดำเนินการต่อ เช่น ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์ อาเซียน-ญี่ปุ่น และอาเซียน-อียู ซึ่งไทยจำเป็นต้องมีการวางกรอบในการเจรจา และกำหนดท่าทีการเจรจาให้เหมาะสม เพราะการลดภาษี จะทำให้ไทยได้ประโยชน์ก็จริง แต่ในทางกลับกัน การลดภาษีก็จะทำให้มีการแข่งขันกับสินค้านำเข้าด้วย
          “ในการเจรจาการค้าเสรีในกรอบต่างๆ ทั้งพหุภาคี ภูมิภาค และทวิภาคี ไทยให้ความสำคัญต่อการเปิดตลาดยานยนต์และชิ้นส่วน เพราะไทยมีขีดความสามารถ และรัฐบาลก็มีนโยบายในการผลักดันให้ไทยเป็นดีทรอย ออฟ เอเชีย ที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออก ของภูมิภาคนี้ แต่การจะเปิดเสรี ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดท่าทีให้ชัดเจน โดยยึดหลักที่ว่า สินค้าใดแข่งขันได้ ก็จะเปิดเสรี แต่หากแข่งขันไม่ได้ โดยเฉพาะสินค้าอ่อนไหว ก็จะคงภาษีไว้ หรือลดภาษีในระยะเวลาที่นานขึ้น และมีกองทุนให้ความช่วยเหลือในการปรับตัว”นางสาวชุติมากล่าว
          นางสาวชุติมากล่าวว่า การเปิดเสรีจะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยได้รับประโยชน์จากการลดภาษีนำเข้า ทำให้ต้นทุนการนำเข้าชิ้นส่วนที่จำเป็นจากประเทศต่างๆ เพื่อนำมาประกอบเป็นยานยนต์ในประเทศถูกลง เพราะยานยนต์หนึ่งคัน มีชิ้นส่วนประกอบ 2-3 หมื่นชิ้น ซึ่งไม่จำกัดอยู่แค่อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน แต่ยังกระจายไปยังอุตสาหกรรมสนับสนุนอื่นๆ เช่น เคมี โลหะและอโลหะ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์  เป็นต้น 
          อย่างไรก็ตาม ในการเปิดเสรี ไทยก็ต้องมีการลดกำแพงภาษีลงมา ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการในประเทศจะต้องเผชิญกับการแข่งขันจากสินค้านำเข้า ผู้ประกอบการจึงต้องมีความตื่นตัว และเตรียมความพร้อมเพื่อรับผลกระทบที่เกิดขึ้น  
          ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา (2546-2550) ทั่วโลกมีการค้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วน เฉลี่ยเป็นมูลค่าปีละ 613.22  พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยแบ่งเป็นการนำเข้าปีละ 335.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ และการส่งออกปีละ 277.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยมีส่วนแบ่งตลาดการค้ายานยนต์และชิ้นส่วนคิดเป็น 2.01% มีมูลค่าเฉลี่ย (2546-2550) ปีละ 12.34 พันล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นการนำเข้าปีละ 3.93 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่งออกปีละ 8.42 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยการค้ายานยนต์และชิ้นส่วนคิดเป็น 5.36% ของการค้ารวมของไทย
          กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 
          โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630
-พห-