คำกล่าวเปิดงานสัมมนาเวทีสาธารณะ เรื่อง “กรอบเจรจา FTA อาเซียน-คู่เจรจา : ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดียฯ โดย ปลัดกระทรวงพาณิชย์

ข่าวทั่วไป Monday March 30, 2009 14:10 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

คำกล่าวเปิดงานสัมมนาเวทีสาธารณะเรื่อง “กรอบเจรจา FTA อาเซียน-คู่เจรจา : ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย , MERCOSUR ชิลี และ GCC ขุมทองสินค้าบริการ และ การลงทุน..ที่ไม่ควรพลาด” โดย คุณศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ วันพุธที่ 18 มีนาคม 2552 ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ถ.สุขุมวิท 22 กรุงเทพฯ

------------------------------

เรียน อธิบดี รองอธิบดี ท่านผู้เข้าร่วมสัมมนา สื่อมวลชน และ แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน

ในฐานะปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติ กล่าวเปิดงานสัมมนาเวทีสาธารณะในวันนี้

ดูจากหัวข้องานสัมมนา ผมเห็นโอกาสทางการค้าอยู่มากมาย

ผมเห็นความเข้มแข็ง ของ 10 ชาติสมาชิกอาเซียน ที่รวมกันเป็นหนึ่ง เห็นขีดความสามารถในการแข่งขัน และ การรวมกลุ่มที่เข้มแข็งระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อก้าวไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558

นี่คือภาพอำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจ ที่สำคัญยิ่ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนอาเซียนเดินหน้าสู่เวทีโลก

วันนี้ เรามีประธานอาเซียน ชื่อ ท่านนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีเลขาธิการอาเซียน ชื่อ ท่านสุรินทร์ พิศสุวรรณ ซึ่งได้ยืนยันพันธกรณีการสร้างอาเซียนว่า จะมีประชาชนเป็นศูนย์กลางและเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการสร้างประชาคมอาเซียน

ภาพจากความสำเร็จของการประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ และ เพิ่งเสร็จสิ้นไปไม่นาน ยิ่งตอกย้ำให้ผมเห็นถึงโอกาส

โอกาสที่ประเทศไทยจะก้าวผ่านความยากลำบาก จากวิกฤตการณ์ในตลาดการเงิน ที่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยนี้ไปได้ ด้วยความเข้มแข็งของกลุ่มประเทศอาเซียน กอปรกับการเปิดตลาดใหม่ เน้นการส่งออก ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศ

ในฐานะปลัดการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรับนโยบายจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ทูตพาณิชย์ทุกคน ทำหน้าที่เชิงรุก ในการเดินทางไปเจรจาเพื่อเพิ่มการค้า การลงทุนถี่ขึ้น เพื่อผลักดันให้การส่งออก เพิ่มขึ้นให้ได้

พร้อมกันนี้ ทูตพาณิชย์ ต้องเร่งทำงานในการหาข้อมูลการค้าให้กับผู้ประกอบการโดยละเอียด รวมทั้ง แนวทางในการแก้ไขปัญหาการค้าของแต่ละประเทศด้วย

จากการประชุม และหารือกับทูตพาณิชย์ทั้ง 56 ประเทศทั่วโลก ผมเชื่อมั่นว่า โอกาสสินค้าไทยในตลาดต่าง ๆ ยังคงมีอีกมาก ถึงแม้ว่า ทั่วโลก กำลังเผชิญอยู่กับวิกฤติเศรษฐกิจโลกก็ตาม

การที่อาเซียนลงนาม FTA กับภูมิภาคอื่นๆ จะเป็นตัวช่วยที่ดีอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ถิ่นกำเนิดสินค้าใช้ร่วมกันได้ และนั่นหมายถึงสินค้าจะมีต้นทุนที่ต่ำลง การส่งออกก็จะ ทำได้มากขึ้น

ดูจากหัวข้อสัมมนาในวันนี้ มีหลายประเทศที่เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ ตามที่อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้กล่าวไปแล้วอย่าง คณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับ หรือ GCC , ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง หรือ MERCOSUR รวมถึงประเทศชีลิ ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ และมีความสนใจทำตลาดกับไทยเพิ่มมากขึ้น ติดเพียงเงื่อนไขที่ว่า เขาไม่ต้องการติดต่อกับไทยโดยตรง แต่มีความต้องการที่จะติดต่อผ่านกลุ่มอาเซียน ซึ่งการที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกอาเซียน ตรงนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก

ผมเชื่อว่า หาก อาเซียน บรรลุข้อตกลงร่วม กับกลุ่มนี้ได้เมื่อไหร่ ประเทศไทยจะสามารถเปิดตลาดส่งออกใหม่ๆ นี้ได้อีกมาก

เหล่านี้ล้วนแต่เป็นนัยยะที่ดีทั้งสิ้น ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก

ท้ายนี้ผมขอฝากให้ทุกท่านที่มาในวันนี้ ช่วยกันแลกเปลี่ยนมุมมองในการทำความตกลง การค้าเสรีอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อลดปัญหา ลดอุสรรค และช่วยกันมองหาแนวทางในการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน และใช้ประโยชน์จากความตกลงอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย

บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ผมขอถือโอกาสนี้เปิดงานสัมมนาเวทีสาธารณะ “กรอบเจรจา FTA อาเซียน-คู่เจรจา: ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย, MERCOSUR ชิลี และ GCC ขุมทองสินค้าบริการ และ การลงทุน… ที่ไม่ควรพลาด”

และ ขออวยพรให้การสัมมนาประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้ทุกประการ

ขอบคุณครับ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ